เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด นายจิระเดช อุยอนันต์ อายุ 33 ปี พร้อมด้วย นางสาวศรุชา รัตนทัศนีย์ อายุ 29 ปี ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายนำหลักฐานเอกสารเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อออกมาเตือนภัยกรณีถูกเพจปลอมนำรูปภาพของที่พักชื่อดัง ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หลอกให้โอนเงินจองที่พักช่วงเทศกาลปีใหม่ สุดท้ายหนีหาย บางรายเดินทางไปถึงกลับไม่มีรายชื่อในการจองที่พัก จึงอยากให้ช่วยติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีผู้ที่รับโอนเงิน

นายจิระเดช ระบุว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้วางแผนจะไปท่องเที่ยวที่ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ช่วงสิ้นปี กระทั่งวันที่ 18 พ.ย. เวลาประมาณเที่ยงได้หาข้อมูลที่พักในกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่พักม่อนแจ่ม โรงแรมเชียงใหม่ จนมาเจอเพจ “ม่อนสายลม” ซึ่งมีการนำภาพที่พัก และรายละเอียดมาลงไว้ จึงเข้าไปคุยทางข้อความแมสเซนเจอร์ ซึ่งทางเพจก็ส่งภาพที่พัก และเรทราคาที่พัก โดม 2,300/คืน ซึ่งได้ตกลงพัก 2 คืน เป็นเงิน 4,600 บาท ต้องมัดจำ 50% โดยจะเข้าพักในวันที่ 30-31 ธันวาคม เมื่อโอนเงินค่ามัดจำไป ทางเพจก็ไม่ได้ตอบกลับมาแต่อย่างใด ผ่านไป 1 ชม. เกิดความสงสัยทำไมเพจไม่ส่งอะไรกลับมาเลย จึงได้ไปหาข้อมูลในกูเกิลก็พบชื่อเพจซึ่งเป็นเพจจริง เมื่อสอบถามไปเขาก็บอกกลับมาในทันทีว่าเราถูกหลอก เมื่อกลับไปดูข้อมูลผู้ติดตามก็พบว่าเพจปลอมมีผู้ติดตามเพียง 3 พันคน ส่วนเพจจริงมีผู้ติดตามกว่า 8 หมื่นคน จากนั้นได้เดินทางแจ้งความไว้ที่ สน.ร่มเกล้า

ด้าน นางสาวศรุชา เล่าว่า ตนโพสต์ตามหาห้องพักที่ยังว่างอยู่ในม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ก็มีเพจสายลม ม่อนแจ่ม เจียงใหม่ เข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ว่ามีห้องว่าง ตนจึงรีบติดต่อไปเนื่องจากช่วงเวลาที่ตนจะไปเป็นสิ้นปี ซึ่งที่พักส่วนใหญ่จะเต็มหมด เขาก็ได้ส่งภาพถ่ายและราคาที่พักมาให้ โดยก่อนหน้าจะตกลงจ่ายค่าที่พักได้ไปหาข้อมูลที่พักแห่งนี้จนได้เบอร์ติอต่อมา และได้คุยกับพนักงานซึ่งเขาให้เราไปแจ้งข้อมูลในเพจ และยังได้ย้ำชื่อที่พักไปแล้วปรากฏว่าตรงกัน จึงทำให้เราเชื่อว่าเพจที่เราคุยก่อนหน้าเป็นที่พักแห่งเดียวกัน จึงตัดสินใจจองห้องพักไปเป็นโดม 2 หลัง 1 คืนราคา 4,000 บาท จ่ายมัดจำไป 2,000 บาท พอโอนไปทางเพจตอบแค่ว่าทราบแล้วก็หายไป พอโทรฯ กลับไปเบอร์เดิมที่เคยคุยกันเพื่อเช็กสถานะการจองกลับไม่มีชื่อและแจ้งว่าเราน่าจะโดนเพจปลอมหลอก

นางสาวศรุชา กล่าวอีกว่า จากนั้นได้หาข้อมูลปรากฏว่ามีผู้ถูกหลอกในลักษณะนี้หลายราย ทั้งใน กทม. ชลบุรี ลำปาง อุบลฯ ผู้เสียหายที่รวบรวมได้ตอนนี้ 22 คน มูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นบาท และบางรายเดินทางไปเพื่อเข้าพักกลับไม่มีชื่อจองต้องเดินทางกลับก็มีเพราะที่พักเต็มหมด

“อยากออกมาเตือนให้คนที่กำลังหาที่พักในช่วงเทศกาลที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องว่างในการหลอกลวง ตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะโอน อย่าไปเชื่อแต่การได้คุยข้อความ หรือแค่เห็นภาพ เพราะเคสของพวกเราทางเพจปลอมได้นำภาพจากสถานที่จริงจากเพจจริงมาลง การพูดคุยก็คล่องแคล่วจนไม่มีอะไรผิดสังเกต และพอได้เงินมัดจำไปก็จะหนีหาย เปลี่ยนหน้าเพจ และเลขบัญชีที่โอนไปเรื่อยๆ” นางสาวศรุชา กล่าว.