เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. น.ส.สุดารัตน์ หล่ำสุข อายุ 24 ปี พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นการเตือนภัยไม่ให้หลงกลกับกลุ่มมิจฉาชีพ อ้างเป็นบริษัทสินเชื่อกู้เงินออนไลน์ ใช้กลลวงล่อหลอกให้โอนเงิน เพื่อจะได้วงเงินกู้ แต่กลับไม่ได้เงิน ยังถูกข่มขู่
น.ส.สุดารัตน์ นำหลักฐานการพูดคุยผ่านแชต กับมิจฉาชีพ พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเริ่มเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนเองต้องการที่จะกู้เงิน 30,000 บาท โดยไปพบเจอแพลตฟอร์ม เงินกู้ในเฟซบุ๊ก จึงได้ทักข้อความไปเพื่อสอบถามรายละเอียด จนมีการแอดไลน์ พร้อมกับส่งรายะเอียดขันตอนการกู้เงิน พร้อมกับลิงก์ให้กรอกรายละเอียด เพื่อให้ได้รับการอนุมัติ จะมีเงินเข้าในแอพเป๋าตัง จนวันที่ 9 ธ.ค. ได้มีการแจ้งมาทางไลน์ว่าเงินกู้วงเงิน 30,000 บาทได้รับการอนุมัติแล้ว ให้โอนเงิน 3,600 บาท เพื่อขอรหัส OTP เพื่อทำการถอนเงินทั้งหมดออก โดยเงิน 3,600 บาท จะเข้ามาพร้อมเงินที่กู้ 30,000 บาท แต่ตนเองแจ้งกลับไปว่ายังไม่มีเงิน ต้องรอเงินเดือนออกเดือนออกวันที่ 23 ธ.ค.
จากนั้นไลน์แก๊งเงินกู้ก็พยายามส่งข้อความมาหาทุกวัน จนวันที่ 23 ธ.ค. เงินเดือนออกจึงโอนเงินไป 3,600 บาท เพื่อขอรหัส OTP ตามที่แจ้งมา มีการตอบกลับมาว่า กรอกข้อมูลผิด ให้โอนไปอีก 12,500 บาท เพื่อแก้ไข พร้อมให้เขียนกำกับว่า เพื่อปลดล็อกอายัด และจะคืนเงินที่โอนมาพร้อมเงินที่ขอกู้ ซึ่งตนเองได้ไปตรวจสอบลิงก์ที่พบว่าตนเองกรอกเลขที่บัญชีธนาคารผิดจริงจึงหลงเชื่อโอนเงิน แต่ลืมเขียนกำกับไปว่าปลดล็อกอายัด ทางเงินกู้ก็ให้ตนเองโอนไปเพิ่มอีก 12,500 บาท ในยอดเดิมเพื่อแก้ไข แต่ตนเองไม่มีเงินเหลือแล้ว เพราะเงินเดือนที่ออกมาโอนให้ไปหมดแล้ว กลับมีการติดต่อกลับมาว่าให้หาเงินมาโอนเพื่อแก้ไข ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมายในการกรอกหรือให้ข้อมูลผิดพลาด อ้างข้อกฎหมายข่มขู่ ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้ตนเองเดือดร้อนมาก เบื้องต้นได้นำเอกสารทั้งหมดเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ไว้แล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเครียดมาก ปีใหม่เงินเดือนที่ออกมาก็ไม่เหลือ กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก อยากออกมาเตือนให้ผู้ที่คิดจะกู้ผ่านแอพออนไลน์บนแพลตฟอร์ม เงินกู้ต่างๆ บนโซเชียล เราไม่อยากให้คนอื่นโดนเหมือนเรา ให้ไปกู้กับธนาคารที่มีความแน่นอนดีกว่า ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี มีการบอกว่าจะให้คนมาลงพื้นที่และเก็บเงิน 30,000 บาท ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้เงินเลยด้วย.
