เมื่อวันที่ 2 ม.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต..ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร. ร่วมกับแถลงข่าวจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาส และความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่สงขลา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดเจ็บ18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทำผิด และดูแลขวัญกำลังใจตำรวจให้ดี ตนได้สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจนพบว่า คนร้ายขับรถยนต์กระบะคันประกอบระเบิด หรือคาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ แล้วเดินลงจากรถออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไป

ทั้งนี้ ตรวจสอบทางทะเบียนรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดำ ทะเบียน กค 6961 ตรัง พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่ปี 2564 และนางสาวไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนที่จะได้มีการประกาศขายทางเฟซบุ๊ก ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อนัด ส่งมอบรถกันบริเวณตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พ.ย.65 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับรถมีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็น นายฮัสบูเล๊าะ สะนิ

โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่า คนร้ายเดินทางออกมาจากพื้นที่อำเภอตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจำนวน 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คัน และขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่าร่วมกันกับพวกก่อเหตุคดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดแล้ว 9 คน

ขณะนี้ ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้วจำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1.นายฮัสบูเลาะ สะนิ 2.นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน สะนิ 5.นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.นายวาฟี สะปาดี7.นายอีซาล สาและ 8.นายไซปูรูสมัน มามะ และ 9.นายมูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม ซึ่งตำรวจจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

คดีที่ 2 ความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และกรณีเหตุวันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทำการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดอีกหนึ่งลูกทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบ

สำหรับที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดแบบเหยียบที่มีการก่อเหตุต่อรางและขบวนรถไฟ ที่มีลักษณะคล้ายกับคดีนี้ มีการออกหมายจับนายอัซมัน เปาะเลาะกับพวก คนร้ายที่ก่อเหตุในช่วงปี 2564 ซึ่งจากการเปรียบเทียบวัตถุพยานและแผนประทุษกรรมคดีนี้พบว่าเหมือนกันกับคดีที่นายอัซมัน เปาะเลาะ เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้

และจากกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมกับอาวุธปืน 4 กระบอก พื้นที่อำเภอจะนะ เมื่อ 3 ก.พ. 2565 ผลการซักถามของนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ ให้การยอมรับว่าก่อนถูกควบคุมได้รับคำสั่งจากนายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ บริเวณบ้านท่าโพธิ์เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ ซึ่งได้มีการชี้จุดไว้ในแผน และได้มีการแจ้งเตือนให้หน่วยเฝ้าระวัง

นอกจากนี้ นายจิรศักดิ์ ยังให้การรับว่า กลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มนายจิรศักดิ์ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา มีจำนวน 17 คน จับกุมแล้ว 2 คน วิสามัญ 4 คน หลบหนี 10 คน รวมทั้งนายอัซมัน เป๊าะเลาะ ที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 18 หมาย คนเดียวด้วย

สำหรับคดีนี้ก่อนเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่า วันเกิดเหตุมีพยานพบเห็นและได้มีการพูดคุยกับนายอัซมัน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที

โดยในส่วนของนายอัซมัน ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

ด้าน นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาสได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย.65 แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จำนวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตามรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชยคณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผลติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน.