เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังทราบว่า พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ รับแจ้งความกรณีมีลูกแชร์กว่า 10 ราย ทยอยไปแจ้งเอาผิด นางเนตรชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเท้าแชร์ โดยพบว่ามีลูกแชร์ที่เข้าไปร่วมเล่นแชร์อยู่ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 500 ราย ความเสียหายมูลค่านับพันล้านบาท ซึ่งเหยื่อมีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ ร้านค้าทองคำ ข้าราชการ ประชาชนทั่วไป

จากการสอบสวนพบว่า ผู้ที่ร่วมเล่นแชร์กับเท้าแชร์รายนี้ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ และมีเจ้าของร้านทอง คนมีชื่อเสียงจำนวนมากทั้งในจ.กาญจนบุรี และจ.ราชบุรี ต้องสูญเงินไปรายละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ผู้ที่ฐานะปานกลางก็ขายทรัพย์สินเพื่อนำมาลงทุนเพราะหวังดอกเบี้ยงามๆ ซึ่งช่วงแรกเท้าแชร์จะจ่ายดอกเบี้ยตรงเวลาทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและพูดกันปากต่อปาก บางคนก็ชักชวนเพื่อนและญาติพี่น้องมาลงทุน ต่อมาเท้าแชร์ก็เริ่มที่จะไม่จ่ายดอกเบี้ย ส่วนคนที่ต้องการจะเปียแชร์ก็เปียไม่ได้ จึงรู้ว่าตนเองถูกหลอกก่อนจะพากันมาแจ้งความดังกล่าว

เหยื่อรายหนึ่ง กล่าวว่า ลูกแชร์บางคนลงทุนออกสืบหาติดตามจนไปทราบว่าเท้าแชร์มีการนำเงินไปซื้อที่ดิน ปลูกบ้านหลายหลัง รวมถึงตั้งฟาร์มเลี้ยงวัวหลายแห่ง แต่ไม่สามารถติดตามตัวได้ น่าจะหลบหนีไปตามพื้นที่ต่างๆ คาดว่าน่าจะยังไม่ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศ เพราะมีลูกสาวเรียนอยู่ในโรงเรียนดังของจ.กาญจนบุรี แต่เวลานี้ได้หายตัวไม่ไปโรงเรียนเช่นกัน

พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.ท่าเรือ กล่าวว่า ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการลงมาว่าให้รับแจ้งความแล้วรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัด ลงมาช่วยดำเนินการติดตามสืบสวนเรื่องทั้งหมด จากนั้นค่อยมาร่วมวางแผนแบ่งการปฏิบัติงาน ส่วนตัวเท้าแชร์รายนี้เบื้องต้นได้ส่งสายสืบเฝ้าติดตามตัวแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศ และได้มีการแจ้งไปตามช่องทางแนวชายแดนทั้งหมดแล้วให้เฝ้าดูบุคคลดังกล่าวแล้วเช่นกัน