เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า หลังจากได้นำกระทิง เพศเมีย อายุประมาณ 18-20 ปี ตาบอดทั้ง 2 ข้าง สภาพร่างกายผอมเดินวนเวียนในพื้นที่ไร่ชาวบ้านนอกเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ บ้านคลองดินดำ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลูกตามีสีขาวขุ่นมัวมองไม่เห็น รีบช่วยเหลืออาจจะอดน้ำตายหรือเดินข้ามถนนถูกรถชนตายได้ จึงได้มอบหมายให้ นายคำมวน ทองแต้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ต.หมูสี อ.ปากช่อง ใช้เชือกคล้องคอจับนำมาดูแลที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.65 รวมถึงวันนี้ได้ 57 วัน

เจ้าหน้าที่ทำคอกกั้นให้อยู่ในคอกแต่น่าทึ่งพบว่ากระทิงมะลิถึงตาบอดมองไม่เห็นแต่ใช้หูฟังเสียง ใช้จมูกสัมผัสกลิ่นได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม สามารถให้เจ้าหน้าที่จับอาบน้ำ และนำมาเดินกินหญ้าบริเวณสนาม แต่ที่ทึ่งมากสามารถเดินตามเสียงเรียกได้ และร่างกายอ้วนแข็งแรงขึ้นมาก

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ต.หมูสี อ.ปากช่อง พบกับ นายคำมวน ทองแต้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ทราบว่าเป็นเรื่องจริง จึงได้ให้ นายประทีป ประจันตเสน ผู้ดูแลกระทิง นำกระทิงไปปล่อยให้เล็มหญ้าและร้องเรียกให้เดินตามหากินหญ้า กระทิงแม่มะลิก็เชื่อง ไม่ดุ เดินตามเสียงไปตามเจ้าหน้าที่ จึงเชื่อว่าเป็นกระทิงแม่มะลิตัวที่ชาวบ้านนำมาให้เลี้ยงตั้งแต่เล็ก

และพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด เป็นผู้อุปถัมภ์เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน จนโตและได้ผสมพันธุ์กับกระทิงป่าได้ลูกออกมา หลวงพ่อคูณตั้งชื่อว่า เจ้าทองแดง จากนั้นเมื่อทองแดงโตขึ้นและหลวงพ่อคูณได้มรณภาพ แม่มะลิพาลูกทองแดงเข้าป่าหายไป จนมีชาวบ้านพบเดินออกจากแนวเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ สภาพตาบอด 2 ข้าง และมีสภาพร่างกายผอมโซ จึงเชื่อว่าเป็นกระทิงป่าแม่มะลิอย่างแน่นอนเพราะมีความเชื่องไว.