สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ การหยุดยิงต่อเนื่องเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ในทุกแนวรบของสมรภูมิยูเครน ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาสของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ มีผลแล้วตั้งแต่เวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมอสโก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)


อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียในยูเครนยืนยันว่า กองทัพยูเครนยังคงยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสมรภูมิโดเนตสก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ขัดแย้งหลักของภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน


ด้านกองทัพยูเครนซึ่งประกาศตั้งแต่ต้นว่า ไม่มีทางยอมรับการหยุดยิงของรัสเซียในครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อมั่นว่า “เป็นกลยุทธ์ลวง” กล่าวว่า ทหารรัสเซียในจังหวัดลูฮันสก์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคดอนบาสเช่นกัน ยิงปืนใหญ่โจมตีฐานที่มั่นของทหารยูเครนในพื้นที่ อย่างน้อย 14 ครั้ง และบุกโจมตีฐานประจำการแห่งหนึ่งอย่างน้อย 3 ครั้ง

กระสุนปืนใหญ่เต็มท้ายรถบรรทุกของกองทัพยูเครน ที่แนวรบส่วนหน้าในภูมิภาคซาโปริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน


ในอีกด้านหนึ่ง นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ แถลงเกี่ยวกับการมอบความสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน และ “ทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการรุกรานของรัสเซีย” เป็นมูลค่ารวม 3,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 126,600 ล้านบาท) รวมถึงการมอบอาวุธยุทโธปกรณ์รอบใหม่ให้แก่ยูเครน ไม่ว่าจะเป็นรถรบทหารราบ “แบรดลีย์ ไฟต์ติ้ง” ประมาณ 50 คัน

ทหารยูเครนตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ ระหว่างการลาดตระเวน ในเมืองเครมินนา ทางตะวันออกของประเทศ


ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่รัสเซียเตรียมหยุดยิงในข่วงคริสต์มาสของชาวออร์โธดอกซ์ ว่า รัสเซีย “กำลังต้องการออกซิเจนเพิ่ม” ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐออกรายงานวิเคราะห์ฉบับใหม่เกี่ยวกับสงครามยูเครน ว่า แม้เป้าหมายของรัฐบาลมอสโกยังคงเดิม แต่ตอนนี้กองทัพรัสเซียอ่อนกำลังลงมาก ด้านทำเนียบเครมลินยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อรายงานฉบับนี้ของสหรัฐ.

เครดิตภาพ : REUTERS