เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นาวาเอกณัฐพล สินพูลผล รอง ผอ.ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เวลา 04.00 น.วันนี้ ได้รับแจ้งจาก นายพิพัฒน์ เครือแก้ว กัปตันเรือลากจูงชื่อ พีแอล อาร์เธน่า ว่าเรือได้ประสบกับสภาพวะน้ำเข้าเรือเนื่องจากบริเวณใต้ท้องเรือแตกทำให้น้ำทะเลทะลักเข้าภายในตัวเรือจนทำให้เครื่องยนต์ดับไม่สามารถควบคุมเรือได้ โดยเรืออยู่บริเวณตอนบนของเกาะพะงัน ที่พิกัดแลตติจูด 09.52.840 ลองติจูด100.12.457 อำเภอเกาะพะงัน จึงขอการสนับสนุนความช่วยเหลือเนื่องจากมีลูกเรือพร้อมกัปตันรวม 9 คน รอง ผอ.ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เร่งประสานไปยัง เรือเอกศิรวิชญ์ ศรีธรรมา ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ หรือเรือ ต.114 ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ ที่ปฏิบัติภาระกิจบริเวณสถานีเรือสมุยนำเรือออกเข้าทำการช่วยเหลือลูกเรือลากจูง พีแอล อาร์เธน่า ทั้งหมด

โดยเรือ ต.114 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเกาะสมุยได้เร่งเข้าช่วยเหลือ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เป็นอุปสรรค์เนื่องจากคลื่มลมในทะเลมีกำลังแรง ซึ่งพบว่าสภาพคลื่นในทะเลบริเวณที่เรือลากจูงขอความช่วยเหลือสภาพทะเลคลื่นมีความสูง 3-4 เมตร ทำให้เรือ ต.114 ไม่สามารถฝ่าคลื่นลมเข้าช่วยเหลือได้ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่ากัปตันเรืออาร์เธน่าได้สละเรือเมื่อเวลา 07.00 น. โดยลูกเรือทั้งหมดได้ลงเรือชูชีพเพื่อรอความช่วยเหลือ เรือเอกศิรวิชญ์ ศรีธรรมา ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ หรือเรือ ต.114 จึงได้ตรวจสอบจากเรด้าประจำเรือพบเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ชื่อ ณปภา จึงประสานเรือบรรทุกน้ำมันณปภาให้เข้าทำการช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมด

โดยสามารถช่วยลูกเรือลากจูง 9 คน ขึ้นเรือได้อย่างปลอดภัย จากนั้นเรือ ต.114 ได้เข้าไปนำลูกเรือทั้งหมดขึ้นฝั่งยังสถานีเรือสมุย อำเภอเกาะสมุย ได้อย่างปลอดภัยทุกคน มีเพียงลูกเรือ 2 คนที่มีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากต้องอยู่ในทะเลเป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยมี นายแพทย์มรรษยุว์ อิงคภาสกร แพทย์เวชศาสตร์ทางทะเลโรงพยาบาลเกาะสมุยดูแลอาการอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้นำตัวลูกเรือขึ้นรถฉุกเฉินส่งตัวไปตรวจสภาพร่างกายยังโรงพยาบาลเกาะสมุย

สำหรับ เรือลากจูง พีแอล อาร์เธน่า เลขทะเบียน 241028459 ออกใบอนุญาตเมืองท่าสุราษฎร์ธานี ขนาด 292 ตันกรอส กว้าง 9.3 เมตร ยาว 32.4 เมตร ประเภท เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เขตการเดินเรือ ลำน้ำ และทะเลระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดนราธิวาส ประเภทการใช้ ดัน-ลากจูง

นายพิพัฒน์ เครือแก้ว กัปตันเรือ อาร์เธน่า กล่าวว่า ตนเองได้นำเรือลากจูงอาร์เธน่าออกจากท่าเรือจังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 มกราคมเพื่อไปลากจูงตามคำสั่งของบริษัท แต่ระหว่างที่เรือผ่านเกาะพะงันกับเกาะเต่าคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ซึ่งคลื่นขณะนั้นสูง 3 ถึง 4 เมตร ด้วยแรงกระแทกของคลื่นที่มีกำลังแรงได้ทำให้ท้องเรือแตกน้ำทะเลทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ถึง 05.00 น. ด้วยปริมาณน้ำที่เข้าตัวเรือจำนวนมากจึงได้ประกาศให้ลูกเรือทุกคนรู้ว่าจะต้องสละเรือลงแพชูชีพเมื่อเวลา 07.00 น. โดยลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยมีแต่อาการอ่อนเพลียเพียง 2 คน

ด้านนายถาวร ภูสุโคตร ลูกเรือลากจูงอาร์เธน่า ได้เล่าเหตุการระทึกครั้งหนึ่งในชีวิตที่ตนเองประสบมาว่า ตนเองอยากขอบคุณทหารเรือทุกนายที่เข้าช่วยเหลือพวกตนให้ปลอดภัย โดยพวกตนได้อยู่ในทะเลตั้งแต่เวลา 08.00 น.และได้รับการช่วยเหลือจากเรือบรรทุกน้ำมันเวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งระหว่างที่อยู่ในทะเลตนเองนึกถึงครอบครัวมากที่สุด