เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.อักขราธรณ์ ดอนสถิตย์ รักษาการแทน ผกก.สภ.วังยาง ร่วมคุมตัวนายนิมิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ผู้ต้องตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา หลังก่อเหตุใช้ของแข็งทุบตี น.ส.นฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เสียชีวิต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ

โดยจุดแรก นายนิมิตร ผู้ต้องหา จอดรถจักรยานและโทรศัพท์หา น.ส.นฤมล ห่างบ้านผู้ตาย 50 เมตร หลังจากนั้นไปจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่นัดพบกับผู้ตายบนถนนหลังบ้าน ก่อนจะใช้ไม้ไผ่ฟาดที่ศีรษะ จุด 3 เป็นจุดทิ้งไม้ไผ่ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนล้างคราบเลือดในสระนํ้า จุดที่ 4 นำโทรศัพท์ไปทิ้งสระน้ำที่อยู่เยื้องบ้านพักผู้ก่อเหตุ 20 เมตร จุดที่ 5 บ้านผู้ต้อง นำเสื้อและกางเกงเปื้อนเลือดผู้ก่อเหตุใส่เครื่องซักผ้าในห้องน้ำที่อยู่ใต้ถุนบ้าน จุดที่ 6 นำย่ามที่ซุกใส่ไม้ไผ่ที่ใช้ก่อเหตุไปห้อยไว้ข้างห้องน้ำ และนำรองเท้าถอดไว้ใต้แคร่ โดยใช้เวลาทำแผน ประมาณ 30 นาที ขณะที่ชาวบ้านแห่ไปมุงดูการทำแผนร่วม 100 คน โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 คน คุมเข้มทำแผน หวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์

คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วังยาง รับแจ้งพบศพหญิงเสียชีวิต ริมถนนทางไปทุ่งนา บ้านนาขาม หมู่ 4 ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม จึงไปตรวจสอบ พบศพหญิงสาวทราบชื่อคือ น.ส.นฤมล อายุ 41 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีแดง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มีบาดแผลถูกทุบตีที่ศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอย 3 แห่ง ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีผู้ชายโทรศัพท์มาหาผู้ตาย หลังจากที่ผู้ตายรับสายและเดินออกจากบ้านไปริมถนนจุดเกิดเหตุ กระทั่งช่วง 3 ทุ่ม ลูกวัย 12 ขวบ ได้ยินเสียงคล้ายคนตีกัน ก่อนเสียงเงียบหายไป ด้วยความตกใจจึงไม่กล้าออกมาดู กระทั่งรุ่งเช้า มีเพื่อนบ้านมาพบศพ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า ผู้ตายและนายนิมิตร คบหามีความสนิทสนมกัน แนวทางการสืบสวนจึงพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิด อาจเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากสามีผู้ตายไปทำงานที่กรุงเทพฯ นานกว่า 1 ปี และไม่กลับมาบ้าน กระทั่งสืบจนพบว่า นายนิมิตร ผู้ก่อเหตุไปติดพันกับผู้ตาย

เจ้าหน้าที่ยังเช็กข้อมูลเชิงลึกในทางลับ จนทราบว่าช่วง 2 ทุ่ม วันเกิดเหตุ นายนิมิตร ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์หาผู้ตาย 3-4 ครั้ง แต่ผู้ตายไม่รับสาย เนื่องจากติดสายกับสามี กระทั่งช่วง 3 ทุ่ม ผู้ก่อเหตุได้โทรฯ หาผู้ตายอีก 3-4 ครั้ง ผู้ตายจึงยอมออกจากบ้านมาพบ ขณะที่นายนิมิตร ลวนลามผู้ตาย ได้ขู่ว่าจะไปฟ้องภรรยา นายนิมิตร ผู้ก่อเหตุจึงโมโห เพราะถูกด่าและต่อว่า เนื่องจากหมดเงินไปเยอะแล้ว จึงคว้าท่อนไม้ไผ่ฟาด 3 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่ง ก่อนตนเองจะหนีกลับไปนอนที่บ้าน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สอบสวนนายนิมิตร ผู้ก่อเหตุสารภาพว่า มาติดพันผู้ตายได้ระยะหนึ่งแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้โทรฯ เรียกผู้ตายมาพบจริง เพื่อเคลียร์ใจ อ้างว่าผู้ตายมีหนุ่มมาติดพันหลายคน ก่อนจะลวนลาม น.ส.นฤมล ผู้ตาย จึงขัดขืนและขู่ว่าจะไปฟ้องภรรยา ด้วยความโมโหหลังถูกฝ่ายหญิงด่าทอ อีกทั้งผู้ตายชอบมาขอเงินใช้หลายครั้งแล้ว ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและเกิดหึงหวง จึงคว้าท่อนไม้ไผ่ฟาด 3 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่ง ก่อนจะหนีกลับไป

ด้าน พ.ต.อ.ฉกาจน์ กล่าวว่า ประเด็นน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว หลังตรวจสอบจากข้อมูลทางโทรศัพท์ ทราบว่าวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับสามี ซึ่งทำงานเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังผู้ตายวางสายกับสามี ก็มีโทรศัพท์ผู้ก่อเหตุ ได้โทรฯ ถึงผู้ตาย 3-4 ครั้ง แต่ไม่รับสาย ครั้งสุดท้ายผู้ตายรับสาย มีการพูดคุยกัน 20 วินาที จึงนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้าย ก่อนขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก

ขณะที่นายชัยทอง (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนไปทำงานเป็น รปภ. ที่ จ.สมุทรปราการ นาน 4 ปี จะกลับมาบ้านแค่ปีละครั้ง ทุกครั้งจะส่งเงินเดือนให้ทั้งหมด 15,000 บาท แม้จะอยู่ห่างกัน ตนและภรรยาจะโทรฯ หากัน 3-4 ครั้งต่อวัน ส่วนใหญ่จะถามเรื่องลูก โดยคนร้าย ภรรยาจะจ้างมาตัดหญ้าที่บ้านเสมอมา ทีแรกไม่เชื่อจะเป็นคนร้าย กระทั่งตำรวจจับกุมตัว