จากกรณีที่มีเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงผู้ที่มาร่วมงานศพภายในวัดดอนทราย หมู่ 7 ภายในวัดท่ามะขาม หมู่ 7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ช่วงค่ำวันที่ 1 มี.ค. 64 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมาคือ นายยิ่งพันธ์ กันเกตุ อายุ 45 ปี กำนัน ต.ดอนทราย คนปัจจุบัน ถูกยิงเข้าลำคอทะลุหลอดลม อาการสาหัส, นางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนงค์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย เบอร์ 2 ถูกยิงเข้าชายโครงซ้ายฝังใน 1 นัด อาการสาหัส, นายนคร วันเพ็ญ ผู้สมัคร ส.ท.เทศบาล ต.ดอนทราย และยังมีชาวบ้านที่ถูกลูกหลงอีก 2 ราย คือ นางสมถวิล ศรีรัตน์ และนางมณเฑียร ใจธรรม ต่อมา นางวราพร เนียมรักษา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุคือ นายวันชาติ เนียมรักษา อดีตตำรวจ และเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เขต 3 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม เนื่องจากภรรยาของนายวันชาตินั้นได้ลงรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย แข่งกับนางวราพร ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ จึงอาจจะเป็นแรงจูงใจให้ก่อเหตุ จึงได้ทำการออกหมายจับ แต่นายวันชาตินั้นชิงเข้ามอบตัว อ้างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นั้นมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า นายวันชาติ เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการจับกุมตัวและส่งตัวไปฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากทางญาติได้ร้องขอให้มีการโอนย้ายคดีไปให้กองปราบฯ รับผิดชอบ

ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค. ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นายวันชาติ เนียมรักษา ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านที่สาธารณะฯ และร่วมกันยิงปืนในที่สาธารณะ

นางสาวศิริพร เนียมรักษา ลูกสาวของนางวราพร ผู้เสียชีวิต ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี และนายยิ่งพันธ์ กันเกตุ กำนัน ต.ดอนทราย ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า หลังกลับจากไปฟังคำพิพากษาในคดีของแม่แล้วก็รู้สึกโล่งใจ และได้มาจุดธูปบอกให้แม่ได้รับรู้แล้วว่า ความยุติธรรมมีจริง วันนี้ครอบครัวได้รับแล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงศาลชั้นต้น ยังเหลืออีก 2 ศาล แต่ก็เชื่อในความยุติธรรม เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่ได้สูญเสียคุณแม่ไป และมีการขึ้นศาลมาตลอด

ซึ่งวันนี้มีผลตัดสินออกมาแล้วก็อยากจะขอบคุณศาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้คุณแม่ได้รับความเป็นธรรม และเชื่อในกฎแห่งกรรม ใครทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น ซึ่งในช่วงที่ศาลยังไม่ตัดสินก็จะมีข่าวลือออกมาว่า ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว ซึ่งล่าสุดในวันนี้ก็มีข่าวลือว่า ทางญาติของผู้ต้องหาเตรียมฉลองต้อนรับกลับบ้าน ซึ่งก็กังวลใจว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงจะใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก

นายยิ่งพันธ์ กล่าวว่า แม้ว่าวันนี้ศาลได้พิพากษาแล้วว่าประหารชีวิต ทำให้รู้สึกว่าความยุติธรรมมีจริง ซึ่งแม้ว่าจะยังเหลืออีก 2 ศาล แต่ความหวาดระแวงของชาวบ้านนั้นก็ยังมีอยู่เพราะคดียังไม่สิ้นสุด และอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างและเป็นคดีสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดคดีแบบนี้ขึ้นในเรื่องของการเมือง ซึ่งในเหตุการณ์นั้น ตนเองได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่คอ ซึ่งยังมีร่องรอยบาดแผลที่เป็นความทรงจำอยู่ สภาพร่างกายก็ยังไม่ค่อยปกติ

นางสาวศิริพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เป็นมากกว่าเสียใจ คือคนที่ก่อเหตุนั้นเป็นน้องชายของพ่อ และเป็นอาๆ แท้ของตนเอง ที่ฆ่าพี่สะใภ้ที่มีพระคุณต่อเขา แต่วันนี้เขาก็ได้รับผลกรรมของเขาแล้ว และอยากจะฝากบอกถึงคนที่ลงเล่นการเมือง ไม่ว่าจะระดับใดขอให้ทุกคนอยู่ในกติกา แข่งขันกันตามกติกา อย่าใช้ความรุนแรงแบบนี้เลย.