เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวถึงกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงตอบโต้หลังตนพาผู้เสียหายที่ถูกหลอกรีดเงินแลกวิ่งเต้นโครงการ กทม. ที่นายเสกสกลยืนยันเป็นผู้เสียหายและเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกลับ ว่า ในการแถลงของนายเสกสกล ไม่กล้าพูดถึงเรื่องให้ส่งคนโทรฯ มาเคลียร์กับตน และคนที่ขอให้ช่วยกล่อมนายเอก (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เลยแม้แต่คนเดียว รวมทั้งยังปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องการแคปไลน์ว่าไม่ใช่ของตัวเอง แล้วกลับมากล่าวหานายเอก เป็นขบวนการกรรโชกทรัพย์ ตนขอย้อนถามว่าในขณะนั้นนายเสกสกล เป็นถึงผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีอำนาจมากแล้ว คนอย่างนายเอก จะกล้ากรรโชกทรัพย์หรือไม่

นอกจากนี้ ที่นายเสกสกล บอกว่านายเอก กรรโชกทรัพย์นั้น แปลว่าถูกตามทวงเงินหรือไม่ แล้วทำไมต้องกลัวทวงเงิน ไปทำอะไรไว้ และถามว่านายเสกสกล มีเงินมากขนาดไหนถึงนายเอก จะไปกรรโชก ฟังแล้วไม่สมเหตุสมเหตุ ส่วนที่มองว่าตนตกเป็นเครื่องมือให้ขบวนการกรรโชกทรัพย์ ยืนยันว่าตนเองมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ไม่ได้เป็นเครื่องมือใคร ยืนยันว่าที่ผ่านมามีการตรวจสอบและเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีหลักฐานทั้งหมด และที่ไปพบนายเสกสกลวานนี้ (3 ก.พ.) เพื่อให้ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่กลับกล่าวหาว่าตนเป็นหนึ่งในกระบวนการ นายเสกสกลต้องรับผิดชอบ หลังจากนี้ตนจะไปดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับนายเสกสกลอย่างแน่นอน ย้ำว่าวันที่ 6 ก.พ. 66 ตนจะนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายเสกสกล

ส่วนกรณีที่นายเสกสกลจะไปไปแจ้งความตนและนายเอก เพิ่มเติมหลังจากนี้นั้น ขอท้าให้ไปฟ้องศาลเลย เอาคดีเข้าสู่ศาลเลย รวดเร็วดี ทุกคนจะได้รู้ความจริง ขอให้นายเสกสกล กล้าหน่อย และทำตามที่ขู่ไว้ ตนไม่ได้กลัวเลย ขอให้รีบทำด้วย นอกจากนี้ที่หาว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง ถามว่านายเสกสกลมีเครดิตทางการเมืองอะไร ไปถามประชาชนส่วนใหญ่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องดิสเครดิต แต่เป็นการทำตัวเองทั้งสิ้น และฝากสื่อถามนายเสกสกล ด้วยว่า เมื่อไหร่จะกล้าเผชิญหน้ากับตน