เมื่อวันที่ 9 ก.พ. จากกรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น” เผยแพร่คลิปวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ที่แม่ค้าท้องอ่อนกับแฟนหนุ่มถูกรุมทำร้ายที่สถานีรถไฟชุมพร พร้อมระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายเป็นมาเฟียคุมพื้นที่หรือไม่ ล่าสุด นายวรชัย อายุ 24 ปี และ น.ส.กัลยรัตน์ อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา ได้เข้าพบ ร.ต.ท.สุบิน เย็นใส รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร พร้อมนำหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิดและใบตรวจร่างกายจากแพทย์มามอบให้ เพื่อขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวรชัย ให้การว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เวลาประมาณ 22.40 น. ที่สถานีรถไฟชุมพร บริเวณชานชาลา ตนกับภรรยาซึ่งตั้งครรภ์ร่วม 2 เดือน ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ร่วม 10 คน เข้ามารุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลแตกที่ใบหน้าต้องเย็บหลายเข็ม รอยฟกช้ำดำเขียวที่ใบหน้า คอ และลำตัว ซึ่งตนจำหน้าตาได้ทั้งหมด มาขอให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี

ด้านนางกัลยรัตน์ ได้นำผู้สื่อข่าวไปที่สถานีรถไฟชุมพร เพื่อดูที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า ตนได้ค้าขายมาตั้งแต่รุ่นแม่มาร่วม 20 ปี วันเกิดเหตุได้มีชายฉกรรจ์เข้ามาห้ามไม่ให้ขาย พร้อมทั้งบอกว่า ถ้าพวกมึงขายเจอกู และยังบอกอีกว่า เป็นผู้ประมูลขายของบนสถานีรถไฟชุมพร ก่อนที่ชายดังกล่าวจะเรียกพรรคพวกมาร่วม 10 คน ใช้มีดฟันไปที่ศีรษะของสามี รุมทำร้ายจนสามีล้มลง และหันมาเตะตัวเองที่กำลังท้องอยู่ หลังจากนั้นได้พากันหลบหนีไป

นางกัลยรัตน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาขายของที่ชานชาลา ตนเองได้จ่ายเงินให้กับบุคคลหนึ่งที่อ้างว่า เป็นผู้ประมูลจากสถานีรถไฟชุมพร โดยจ่ายวันละ 300 บาท จนรู้ว่าชายคนดังกล่าวหมดสัญญา ทำให้มีเงินที่จ่ายเกินไปจำนวนหนึ่ง จนสุดท้ายจะเรียกเงินอีก 3 หมื่น แต่ตนไม่ยอมจ่าย จึงเข้าไปหานายสถานีรถไฟชุมพร เพื่อขอเงินที่จ่ายเกินไปคืน นายสถานีได้โอนเงินคืนให้ หลังจากนั้นก็ถูกห้ามไม่ให้ขายที่ชานชาลา ตนเองจึงย้ายไปขายบนรถไฟ จนมาเกิดเรื่องในครั้งนี้ ยืนยันว่าจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวมีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุอาจเป็นกลุ่มนักเลง มาเฟีย ซึ่งพยายามเข้ามาคุมพื้นที่สถานีรถไฟทุ่งสง จนถึงสถานีรถไฟชุมพร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบและติดตามตัวกลุ่มผู้กระทำความผิดมาสอบสวนดำเนินคดี และเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป