เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมตัวอดีตพนักงานสาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.ขวัญนรินทร์ อายุ 23 ปี ทำหน้าที่สาย 1 คอลเซ็นเตอร์ และ 2.น.ส.นวลอนงค์ อายุ 21 ปี ทำหน้าที่สาย 1 และหลังบ้านคอลเซ็นเตอร์ และ น.ส.สุทธิดา อายุ 23 ปี ทำหน้าที่สาย 1 ดำเนินคดีใน 6 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงฯ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ, ร่วมกันทุจริตหลวงลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความเสียหายฯ และร่วมกันฟอกเงิน จับกุมได้ที่บริเวณตลาดนัดเพชรเกษม 77 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ

จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ประมาณเดือน เม.ย.-ต.ค. 65 ทั้งสามคนได้ทำงานคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน อ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่งแจ้งเหยื่อมีพัสดุตกค้าง ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 บาท และได้รับเงินเพิ่มเติมร้อยละ 5 จากยอดเงินที่สามารถหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศไทยได้ รวมยอดเงินที่ทั้งสามคนได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนหลักแสนบาท ซึ่งกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว เคยหลอกลวงผู้เสียหายได้แก่ ครูเกษียณอายุราชการ ได้เงิน 11 ล้านบาท, หลอกนักลงทุนหุ้นได้เงิน 41 ล้านบาท และหลอกแพทย์ใน จ.ชุมพร ได้เงิน 101 ล้านบาท

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ก็ยอมรับว่า ได้ไปทำงานเป็นพนักงานกลุ่มคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชาจริง หลอกเหยื่อลงทุนหุ้น โดยได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 20,000-30,000 บาท และได้เงินร้อยละ 5 จากยอดเงินที่หลอกเหยื่อได้ หลังเก็บเงินได้นับแสนบาท ก็พากันหลบหนีกลับประเทศไทย ก่อนจะมาลงทุนขายข้าวแกงและอาหารอีสาน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้า ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน และติดตามในประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์สินที่ได้มา เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก และยังก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนว่า เราจะติดตามจับกุม ไม่ให้ท่านได้กลับมาใช้เงินอย่างสุขสบายอย่างแน่นอน.