เมื่อวันที่ 18 ก.พ. จากกรณี “น้องต่อ” เด็กชายวัย 8 เดือน หายไปจากบ้านพักในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมาอย่างปริศนา ภายหลังมีการตรวจดีเอ็นเอของเด็กกับบุคคลใกล้ชิด ทำให้ทราบว่า “น้องต่อ” ไม่ใช่ลูกของนายพุด อายุ 19 ปี แต่เป็นลูกของ “ลุงแจ้” เพื่อนสนิทพ่อของ “น.ส.นิ่ม” อายุ 17 ปี แม่เด็ก กระทั่งวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับตัวพ่อ แม่ ลุงวี และลูกลุงวี ไปเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อหาข้อเท็จจริง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามนายพุด และ น.ส.นิ่ม พ่อแม่ของน้องต่อ ทั้งคู่ยังยืนยันไม่เชื่อในผลตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ขณะที่ น.ส.นิ่ม ก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่ลูกของนายแจ้ เวลานี้ไม่สนใจว่าเป็นลูกใคร อยากให้เจอเด็กก่อน และอยากให้มีการตรวจดีเอ็นเอใหม่อีกรอบ และจะได้มานั่งคุยกันอีกครั้ง พร้อมกันนี้ อยากขอให้คนที่เอาลูกไป เอามาคืนได้แล้ว หรืออยากจะได้เงินก็ให้โทรฯ ไปบอกกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะได้ช่วยดำเนินการให้

‘บิ๊กโจ๊ก’ ฮึ่ม! จวกตร.พื้นที่ ทำคดีเด็ก 8 เดือนล่าช้า ซัดหาความจริงไม่ได้สักอย่าง

น.ส.นิ่ม เล่าว่า น้องต่อยังไงก็เป็นลูกของตน ตนเป็นคนคลอดมาด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องพุด ยังไม่รู้เขาเห็นข่าวนี้หรือยัง และก็ยังไม่ได้คุยกันว่าเขาโอเคหรือเปล่า รับได้หรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ยังไม่เคยได้คุยกันเลย

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายแจ้ อายุ 35 ปี ไปสอบสวนตั้งแต่เช้า โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ ใช้เวลากว่า 5 ชม. ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจสอบถามเกี่ยวกับเรื่องเด็กหาย ตัวเองยืนยันไม่ได้เอาไปจริงๆ เพราะไม่รู้จะเอาไปทำไม ที่บ้านก็มีหลานเล็กๆ อีก 2 คน ส่วนตัวก็รักเอ็นดูเด็กทุกคน ส่วนเรื่องดีเอ็นเอยังไม่เห็นเอกสารยืนยัน แต่หากเป็นไปตามที่ว่า ก็พร้อมจะยอมรับและหาวิธีแก้ไขต่อไป แต่วันนี้ตำรวจก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอะไร

ด้าน พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงสั้นๆ ว่า ขอโฟกัสเรื่องตามหาเด็กก่อน ขณะนี้มีหลายทีมลงพื้นที่ทำงาน เก็บหลักฐาน สอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ผู้ต้องสงสัย เพื่อจะเร่งนำตัวเด็กกลับมาให้เร็วที่สุด.