เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คุยกันตลอดคุยกันทุกเรื่อง ทำไม มีเรื่องอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่ากรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่พยายามดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทย ได้มีการปรับความเข้าใจกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม เพราะผมบอกแล้วว่าวันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องรักษาความเป็นพรรคร่วมอยู่แล้ว รัฐบาลร่วมงานมากกว่า 4 ปีแล้ว ในส่วนของพรรคการเมือง ก็ได้ให้นโยบายพรรคการเมืองที่ว่าไปแล้ว จะไม่ไปก้าวล่วงใครทั้งสิ้น เราต้องเป็นสุภาพบุรุษ และทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกา ผมไม่ไปเข้าร่วมใคร ใครจะว่าอะไรผมก็เฉยๆ ของผมถือว่าเรื่องของการหาเสียงก็ว่ากันไป”

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คุยกันตลอดเวลา วันนี้ก็คุยไปตั้งแต่เช้าแล้ว ยังเคารพกันเหมือนเดิม วันนี้ใครจะพูดอะไรก็ว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการนำไปโยงถึงกรณีหาเสียงนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือ “ป้อม 700” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะเขียนก็เขียนไป ให้กี่ร้อยก็ว่าไปเถอะ

เมื่อถามว่า วันนี้พูดได้หรือไม่ว่า ถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะมีพรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร เป็นพรรคร่วมอยู่เหมือนเดิม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รอให้เลือกตั้งแล้วก่อนค่อยว่ากัน เขาไม่พูดกันตอนนี้ ซึ่งพูดกันตอนเลือกตั้งเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ ดังนั้นไม่พูดอะไรทั้งนั้น เรื่องส่วนพรรคก็ส่วนพรรค อยู่ที่ประชาชนเลือกตั้ง มากน้อยก็ว่ามา ส่วนการร่วมรัฐบาลเป็นการคุยกันทีหลังอยู่แล้ว ครั้งที่ผ่านมาตนก็อยู่ในกระบวนการนี้อยู่แล้ว พูดทีหลังหมดไม่ใช่มาพูดก่อน

เมื่อถามว่า ได้ถาม พล.อ.ประวิตร ว่าจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ได้ถามอะไร เป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านก็บอกว่าไม่ได้พูด ไม่ได้จับมือกับใคร ท่านพูดแบบนั้นกับผม ท่านก็บอกว่า ท่านไม่ได้ไปสัญญาอะไรกับใครทั้งสิ้น”

พล.อ.ประยุทธ์ ยังปฏิเสธตอบถึงกรณีจะลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ โดยย้ำว่า ยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น

เมื่อถามถึงกระแสข่าววันยุบสภาว่า จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 21 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า นั่นวันเกิดตนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องยุบในวันเกิดตน เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าเพื่อเป็นของขวัญนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ่อของขวัญของผมเหรอ คนเขารังเกียจผมหรือไง ยุบสภาเอาผมออกไปเพราะว่าวันเกิดผมหรือไง เธอพูดหมายความอย่างนั้น ย้ำว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เธอจะรีบร้อนอะไรนักหนา เอาพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” ก่อนจะตัดบทสัมภาษณ์ว่า พอแล้ว และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการร้องเรียนเรื่อง “เงินทอน” รถไฟฟ้าสายสีส้ม ของนายชูวิทย์ข้อมูลถึงมือนายกฯ แล้วหรือไม่ ว่าก็ทราบมาตลอดและเป็นการรายงานขึ้นมาว่า อยู่ขั้นตอนไหน อย่างไร ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการและอะไรอยู่ในการพิจารณาของศาล ยืนยันว่าจะไปก้าวล่วงไม่ได้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับสายสีเขียวด้วย ทั้งนี้ อำนาจของนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ได้ หากมีข้อกล่าวหาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อหาพยานหลักฐาน ส่วนนายกฯ เป็นเพียงผู้อนุมัติในหลักการ และอนุมัติดำเนินการ แต่ขั้นตอนการดำเนินการมีคณะกรรมการเป็นผู้ทำ เป็นสายงานบังคับบัญชา เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละระยะไป 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเข้าประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม หรือบอร์ด 7 เสือกลาโหม ในการแต่งตั้งกลางปี 66 โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ร่วมประชุม