เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ด.ต.ณัฐฐนนท์ ศิริสังขกรสกุล หัวหน้าชุดตำรวจทางหลวง ตู้ยามทางหลวงบ้านส้ม จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีขบวนการค้าสัตว์ป่า ขนย้ายสัตว์ป่าเป็นลิงแสมจำนวนมาก ผ่านมายังเส้นทางถนนมิตรภาพทางหลวง หมายเลข 2 บริเวณแยกบ้านสัมฤทธิ์ ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าสกัดจับกุม พบรถกระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฒผ 8121 กรุงเทพมหานคร มีท่าทางพิรุธตรงกับที่สายข่าวรายงาน จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าที่ท้ายกระบะ มีลังพลาสติก 6 ลัง บรรจุลิงจำนวนมาก สภาพแออัดยัดเยียด เป็นลิงแสม นับจำนวนได้ทั้งหมด 47 ตัว จึงควบคุมตัวคนขับ ทราบชื่อ นายกฤตยา หมื่นศรี อายุ 43 ปี ชาว ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะเดียวกัน ยังจับกุม นายกฤษณะ ศรีโมรส อายุ 37 ปี ชาว ต.เขาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับรถกระบะอีกคัน ทำหน้าที่นำหน้าเคลียร์เส้นทางอีกด้วย

สอบสวนทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ขนลิงแสมทั้งหมดมาจากพ่อค้าใน จ.ราชบุรี เตรียมนำไปส่งปลายทาง จ.หนองคาย เพื่อส่งต่อให้นายทุนในประเทศจีน ซึ่งมีคำสั่งซื้อขายในราคาตัวละ 10,000 บาท เพื่อนำไปบริโภคเมนูพิสดารเป็นยาชูกำลัง โดยไม่ทราบว่าลิงแสมที่ขนมาเป็นสัตว์ป่าหวงห้าม ตำรวจจึงได้นำลิงทั้งหมดมาอนุบาลไว้ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงบ้านส้ม เพราะมีลิง 1 ตัว มีอาการป่วย หายใจรวยริน เพราะถูกจับยัดใส่ลังมาแน่นขนัดหลายตัว เจ้าหน้าที่ต้องปฐมพยาบาลให้การรักษาเร่งด่วน

ต่อมา พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.3 บก.ปทส.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สัตว์แพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) เข้าทำการตรวจบันทึกการจับกุม ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด โดยไม่มีหลักฐานการอนุญาตให้ค้า ครอบครอง และเพาะพันธุ์ ของทางราชการ มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ส่วนลิงทั้งหมดได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป.