เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือ ปราปต์ นักแสดงชายชื่อดัง เข้ายื่นหนังสือกับ นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนผู้รับเรื่อง ขอทราบความคืบหน้าคดีฟอกเงินที่ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหา

“ปราปต์ปฎล”ร่ำไห้เชื่อมั่นในภรรยา แจงหมดปมเอี่ยวแชร์ Forex 3D!

ปราปต์ปฎล เปิดเผยว่า คดีฟอกเงินที่ตนถูกดีเอสไอแจ้งข้อหา โดยเป็นเวลา 5 เดือนกว่าที่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงทำหนังสือมาวันนี้ เพื่อขอทราบความคืบหน้าทางคดี เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัวพัง บ้านกำลังจะถูกยึด และเมื่อมีการกล่าวหา ตนก็ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ได้ย้ำหลายรอบว่า ดาราอักษรย่อ ป. ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ตนถูกแจ้งคือคดีฟอกเงิน และถ้าตนไม่เกี่ยวข้อง เหตุใดทำไมจึงถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน ในเมื่อตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน

ปราปต์ปฎล เผยอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน เนื่องจากได้ทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน คือ ขับรถแอสตัน มาร์ติน ของ น.ส.ภคมน สิลุน หรือ กู๋กี๋ แฟนสาว จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง เท่ากับเป็นการนำทรัพย์สินไปซุกซ่อนแต่ตนเคลื่อนย้ายไปด้วยเหตุผล และทรัพย์สินเป็นของกู๋กี๋ โดยที่ขณะนั้น กู๋กี๋ ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่เกี่ยวข้องกับคดีใด ๆ และรถคันดังกล่าวไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่ถูกดีเอสไอตามยึด แต่ที่ไปเคลื่อนย้ายเพราะเพื่อนของกู๋กี๋ มีการยึดห้องคอนโดฯ และอ้างว่าทรัพย์สินต่าง ๆ ของกู๋กี๋ เป็นของเขา เพราะเขาเป็นผู้เสียหายจากคดีแชร์ Forex-3D คดีที่มีสามีเก่าของกู๋กี๋ เกี่ยวข้อง ทางกู๋กี๋จึงให้ตนไปย้ายรถคันดังกล่าวให้ จากนั้นก็ได้พากันไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร จนทราบจากพนักงานสอบสวนว่า เพื่อนรายนี้ซักทอดไปถึงเจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับสูงรายหนึ่ง ที่เป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปในคอนโดฯ และทำบันทึกตรวจยึดทรัพย์สินต่าง ๆ ตนจึงแจ้งความในข้อหามาตรา 157 แก่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับสูงรายนี้

ปราปต์ปฎล เผยอีกว่า ในวันที่ 18 ส.ค. 65 แฟนสาวของตนถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. 65 เพื่อนผู้หญิงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของกู๋กี๋ ติดต่อมาหาตนว่า รู้จักกับที่ปรึกษาของเลขารัฐมนตรีท่านหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือได้ จึงนัดให้มีการพูดคุยเจรจากันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเลียบด่วนรามอินทราช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยวันที่ไปพูดคุยนั้นมีตน เพื่อนสนิทกู๋กี๋ แฟนเพื่อนกู๋กี๋ และทนายความชื่อ ฮ. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษาเลขารัฐมนตรี โดยใช้เวลาพูดคุยกว่า 1-2 ชั่วโมง มีใจความสำคัญคือ ทนายความคนนี้บอกว่า “น้องเขาซวยที่ไปแต่งงานกับคนนั้น ซึ่งก็เชื่อว่าน้องไม่เกี่ยว แต่มันมีราคาของความยุติธรรมอยู่” พอได้ยินประโยคนี้ รู้สึกเสียใจและจุกในอกมาก ๆ นอกจากนี้ ทนายความรายนี้ยังเสนอตัวว่าจะสามารถช่วยทำสำนวนอ่อนลงเพื่อให้พ้นคดีได้ พร้อมกับเรียกเงินหลัก 10 ล้านบาท อ้างว่าจะไปใช้เจรจากับผู้ใหญ่ให้

ปราปต์ปฎล กล่าวว่า หลังจากสิ้นคำนั้น ตนอึ้งเพราะตอนแรกคิดว่าที่มาเจรจากันหากช่วยเหลือเป็นค่าทนาย 5 หมื่นบาท ก็พร้อมจ่าย แต่เงินจำนวนดังกล่าว ตนทำงานทั้งชีวิตก็หาไม่ได้ อีกทั้งไม่ต้องการจ่ายเงินให้กับการคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ ตอนนั้นตนไม่ได้พูดอะไร ทางฝ่ายทนาย ฮ. จึงบอกให้กลับไปคิดดูก่อน จากนั้นทนายคนดังกล่าวก็กลับไป เหลือพวกตน 3 คน นั่งคุยต่อจนถึงช่วงเย็นก่อนแยกย้ายกลับหลังจากแยกย้ายไม่นาน เพื่อนสนิทกู๋กี๋ก็ได้ส่งไลน์มาย้ำเรื่องเงินหลัก 10 ล้านอีกครั้ง ซึ่งตนอ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ทำการบันทึกหน้าจอทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยส่วนตัวก็เชื่อว่าเพื่อนผู้หญิงของกู๋กี๋หวังดี และไม่ได้รู้เห็นกับการตบทรัพย์ แต่เป็นเพราะรู้จักคนและอยากช่วยจริง ๆ และตนไม่ได้บอกว่าทนาย ฮ. เกี่ยวข้องกับเลขานุการรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี

นายปราปต์ปฎล ยังบอกอีกว่า การที่ตนออกมาแฉยังไม่ได้ต้องการที่จะดำเนินคดีในข้อหาความผิดเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ เพราะยังไม่ถึงเวลา และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ก่อน พร้อมยืนยันว่า การออกมาเรียกร้องวันนี้ไม่ใช่การขู่เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่เป็นเพียงการเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองและแฟนสาว โดยตนต้องการให้แฟนสาวได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี เนื่องจากจะได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

“ตนจะยังไม่หยุด และจะใช้ข้อเท็จจริงยืนยันต่อสู้ต่อไป โดยตนมีคณะทำงานหลายฝ่ายเพื่อสู้ในครั้งนี้ มีช่องทางจะสู้และเมื่อได้รับความเป็นธรรม จึงจะถือว่าสัมฤทธิผล” ปราปต์ปฎล กล่าวพร้อมระบุว่า หลังจากที่ ทนาย ฮ. ที่อ้างว่าเป็นปรึกษาของเลขานุการรัฐมนตรี ได้มีการเสนอต่อรองการช่วยเหลือคดีนั้น ตนก็ไม่ได้มีการโทรศัพท์สอบถามไปยังท่านเลขารัฐมนตรีคนดังกล่าว เนื่องด้วยไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่มีเพียงช่วงหลังที่ถูกดำเนินคดีฟอกเงิน ได้มีโอกาสไปเตะฟุตบอลหรือทำกิจกรรมร่วมกันกับทางเลขานุการรัฐมนตรีและผู้อำนวยการกองคดีฯ แต่ก็ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คดีพิเศษที่ 36/2563 ฐานความผิดฟอกเงินที่ดีเอสไอแจ้งข้อหาแก่ นายปราปต์ปฎลนั้น เนื่องมาจากเมื่อปี 2563 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ไปตรวจยึดรถหรูแอสตัน มาร์ติน มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาทของ น.ส.ภคมน สิลุน หรือ กู๋กี๋ (อดีตภรรยานายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D ปัจจุบันเป็นแฟนสาวของนายปราปต์) ซึ่งนายปราปต์ได้ขับไปจอดไว้ที่บ้านพักในจังหวัดราชบุรี หลังเจ้าหน้าที่พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีแชร์ Forex-3D และดีเอสไอมีหลักฐานที่ชี้ได้ว่าเข้าข่ายกระทำความผิดฐานการรับมาด้วยประการใด ๆ ถือเป็นการยักย้ายถ่ายเทซุกซ่อนทรัพย์สิน ทำให้นายปราปต์ปฎลที่เป็นผู้ขับรถของแฟนสาวไปจอดยังสถานที่อื่น จึงเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างสอบปากคำบุคคลอื่นเพิ่มเติมและรวบรวมพยานหลักฐานคำให้การต่าง ๆ ก่อนเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการต่อไป.