นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. ได้จัดงาน PTT Group Tech & Innovation Day ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-3 มี.ค. 66 เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญ เพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ตลอดจนสร้างการรับรู้ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต และหาโอกาสต่อยอดความร่วมมือในธุรกิจใหม่ทั้งจากภายในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานภายนอก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีต่างๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions 

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 1.นิทรรศการ แสดงผลงานทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่จาก กลุ่ม ปตท. ใน 7 ด้าน ประกอบด้วย Future Energy, Future Mobility, Life Science, AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure, Decarbonization และ Innovation Ecosystem ที่มีส่วนในการช่วยสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม เช่น การดูแลสิ่งแวดล้อมจากพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า สุขภาพ และการแพทย์จากวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ของภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรมจากระบบการขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน 

2.Tech Talk เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวคิด มุมมอง และเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าจับตาจากภาครัฐ ที่ขับเคลื่อนนโยบาย และผู้นำด้านนวัตกรรมกว่า 23 หัวข้อ และ 3.Pitching Desk พื้นที่นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของ กลุ่ม ปตท. กว่า 30 แบรนด์ ที่พร้อมให้นักลงทุนและผู้สนใจได้ร่วมพูดคุย ต่อยอดและขยายโอกาสการเติบโตสู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงานไปด้วยกัน ตลอดจนจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมที่พร้อมให้ช้อป ชิมจาก กลุ่ม ปตท. เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก Innobic น้ำเชื่อมหญ้าหวาน Natural Nxt อาหารโปรตีนจากพืช NRPT ไอศกรีมกะทิสดแท้ Kathisod Station และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจาก MORE

“กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตเป็นที่ยอมรับทั้งในภูมิภาคอาเซียนและเวทีโลก พร้อมขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตได้ต่อไป” นายอรรถพล กล่าว

นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่และนวัตกรรมของ ปตท. เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ภายใต้เป้าหมายการประกาศเจตนารมณ์ของกลุ่ม ปตท. ถึงประเด็นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. ได้มีการดำเนินงานที่เห็นเป็นภาพชัดเจนแล้วหลายด้าน โดย ปตท. ได้ประกาศปรับสัดส่วนรายได้ภายในปี 2573 จะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 30% และในปี 2576 เพิ่มสัดส่วนลดการปล่อยคาร์บอนลงอีกกว่า 50% โดยลดธุรกิจฟอสซิลและเพิ่มนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนให้เป็นบริษัทที่เติบโตบนเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีหลายธุรกิจของ ปตท. ที่เน้นดำเนินงานภายใต้การดูแลการปล่อยคาร์บอนนั้นสามารถสร้างรายได้ หรือทำกำไรให้กับบริษัทได้แล้ว อย่างเช่นการลงทุนใน บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด ก็เริ่มเห็นความชัดเจนทั้งเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเรื่องของแบตเตอรี่ โดยปี 2567 จะสามารถรับจ้างผลิตได้ที่ 5 หมื่นคัน

ขณะที่ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนแล้วกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และได้ไปร่วมทุนกับบริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Lotus Pharmaceutical) บริษัทยาระดับโลกของไต้หวัน ก็สามารถทำตลาดได้ดี และในปี 2565 โลตัส ฟาร์มาซูติคอล มียอดขายที่ 15,000 ล้านบาท ทำกำไรได้เกือบ 2,000 ล้านบาท 

หัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจใหม่ให้ประสบความสำเร็จคือนโยบายภาครัฐ และการขับเคลื่อนไปพร้อมกับเอกชนที่ไปในทิศทางเดียวกัน และรับฟังซึ่งกันและกัน และอีกสิ่งสำคัญของการขับเคลื่อนด้วย Passion and Purpose ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมี 3 ส่วนสำคัญ  คือ 1. เทคโนโลยี 2. ทุน และ 3. คน ซึ่งวันนี้ Purpose พร้อมแล้ว แต่อาจจะขาดนักลงทุนที่มี passion  ซึ่ง ปตท. โชคดีที่มีความชัดเจนทั้ง 2 เรื่อง

อย่างไรก็ตาม เรื่องของเทคโนโลยีสำคัญจะต้อง Sense of Urgency และ Strategic focus ถือว่าอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่นำเสนอ สะท้อนเทรนด์อุตสาหกรรมโลก ถือเป็นความได้เปรียบที่ ปตท. ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ปตท. ก็ต้องเร่งดำเนินการ ดังนั้นจึงต้องหาพันธมิตรในรูปแบบ Partnership and Platform ซึ่งกลุ่ม ปตท. ใช้วิธีนี้เพื่อเร่งความเร็วและสิ่งสำคัญคือ Open Innovation เพื่อบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อ Accelerate Scale อีกทั้งการทำสิ่งต่างๆ จะต้องมีเงินทุน โดย ปตท. ได้สนับสนุนในด้านนี้อย่างจริงจัง

สิ่งสำคัญที่ต้องการฝากในเรื่องของการใช้ยุทธศาสตร์ทั้งเทคโนโลยี คน และเงินทุนในการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยเฉพาะในเรื่องของการรวมพลังของคนทั้งประเทศ เริ่มตั้งแต่ระดับภาครัฐ และเอกชน ส่วนระดับบริษัทจะต้องให้ความสำคัญตั้งแต่คณะกรรมการบริษัทจนถึงพนักงาน กลุ่มปตท. ไม่ได้ทำ เพื่อตัวเองทำให้เติบโต ถ้าไม่ทำจะไม่สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ ดังนั้น ความสำเร็จหลักจะอยู่ที่คน และต้องยอมรับฟังความคิดเห็นร่วมกัน เพื่อให้เห็นปัญหาและทางออกของปัญหา หากทำผิดพลาดก็ต้องให้กำลังใจ ถ้าล้มก็จับมาแต่งตัวปัดฝุ่นใหม่และก้าวต่อไปพร้อมกัน