จากกรณีเอกสารการชี้แจงขั้นตอนการดำเนินคดีกับเครือข่าย “ทุนมินลัต” ที่ชี้แจงโดย พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส.สน.พญาไท จนปรากฏเป็นข่าวที่เกิดขึ้นนั้น สำหรับเนื้อหาในเป็นจดหมายความยาว 7 หน้ากระดาษ ส่งถึงกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ได้บรรยายแจกแจงถึงการร้องขอออกหมายจับ ส.ว.รายหนึ่งในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด-ฟอกเงิน และการเพิกถอนหมายจับ พร้อมแนบเอกสารสำเนาหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 3 ต.ค. 65 สำเนารายงานกระบวนพิจารณา และสำเนาระเบียบตำรวจเกี่ยวกับคคี ซึ่งคดีดังกล่าวศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับและเพิกถอนหมายจับภายในวันเดียว โดยระบุว่าเป็นบุคคลสำคัญ เชื่อได้ว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและปรากฏว่าเอกสารดังกล่าวหลุดออกมา รวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการช่วยเหลือกันเกิดขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

‘บิ๊กเด่น’ สั่งเร่งตรวจสอบคดีเครือข่าย ‘ทุนมินลัต’ ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู

ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ‘ทุน มิน ลัต’ รีสอร์ท โรงแรมหรูกว่า 1.8 พันล้าน

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 มี.ค. จากกรณีที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส.สน.พญาไท ซึ่งทาง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ปฏิเสธที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ด้วยเหตุที่ยังรับราชการอยู่ ซึ่งมีระเบียบขั้นตอนของการให้ข่าว เพียงแต่ระบุว่าเนื้อหาบางส่วนในเอกสารมีความคล้ายกับฉบับจริงที่ได้ชี้แจงไป แต่ไม่ทราบว่าถูกนำไปเผยแพร่ได้อย่างไร ส่วนในรายละเอียดทางคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากกระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้น ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการไปยังจเรตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ในการทำสำนวนคดี รวมถึงความล่าช้า ความบกพร่องว่ามีหรือไม่อย่างไร หากพบว่ามี ก็ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งในเรื่องอาญา วินัย และปกครอง อีกทั้งได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่าเอกสารที่หลุด เป็นเอกสารจริงหรือไม่ และรายละเอียดที่มีในเอกสาร เป็นข้อเท็จจริงตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่ เนื่องจากเนื้อหาที่ถูกเปิดเผยนั้น เป็นขั้นตอนกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดี ที่ยังดำเนินการไม่ทันเสร็จสิ้น

ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตว่านายตำรวจที่ทำคดีดังกล่าว ในวาระแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว. ประจำปี 2565 ต่างถูกย้ายออกนอกหน่วยรวมทั้งถูกลดเกรด อาทิ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.บก.น.2 หัวหน้าทีมตำรวจชุดจับกุม เดิมมีคำสั่งย้ายไป สภ.บ้านเดื่อ จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ภายหลังมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ย้ายเข้าจเรตำรวจ, พ.ต.ท.สุชาติ มงคลพิพัฒน์ รอง ผกก.สส.บก.น.4 รองหัวหน้าชุดจับกุม ถูกย้ายเป็นรอง ผกก.ป.สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พ.ต.ต.ชำนาญยุทธ ก้อนฆ้อง สว.สส.กก.สส.บก.น.2 ถูกย้ายไปสน.ดอนเมือง ขณะที่ พ.ต.ท.มานะพงศ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส.กก.สส.บก.น.2 ถูกย้ายเป็น สว.สส. สน.พญาไท

แม้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะออกมาเปิดเผยว่า เป็นการแต่งตั้งตามวาระ ไม่ได้ย้ายเพราะมีสาเหตุมาจากคดี ซึ่งอำนาจการแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รอง ผกก. เป็นอำนาจของ ผบช. ซึ่งพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ความสามารถในการทำงาน หลักเกณฑ์อาวุโส ซึ่งการโยกย้าย พ.ต.ท.มานะพงษ์ ถือว่าไม่ได้เป็นกลั่นแกล้ง เพียงแต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงสีกากีว่าในวาระการแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ ที่ถึงนี้นายตำรวจที่มีส่วนในการทำคดีนี้จะพลอยถูกหางเร่ไปด้วยหรือไม่.