เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน กลางดึกคืนวานนี้ (15 มี.ค.) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าดำเนินการตรวจสอบ บาร์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยบางลา ป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่มีชื่อเสียง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจาก มูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) (ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศทำงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์) ว่า บาร์แห่งนี้เปิดเป็นบาร์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่มีการแอบแฝง นำเด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายตัวให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ

หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ได้ส่งสายลับ ลงพื้นที่เข้าทำการสืบสวน ร้านดังกล่าว พบว่ามีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็กจริง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ โดยได้วางแผนประชุมร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต และมูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ และช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยเริ่มจากการส่งสายลับเข้าไปเพื่อพิสูจน์ความผิด และพบว่าร้านดังกล่าวมีการกระทำความผิดฐานการค้ามนุษย์จริง จึงได้แจ้งให้ชุดจับกุมทราบ เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ โดยได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด

ชุดแรก เข้าดำเนินการตรวจสอบร้านในซอย Sea Dragon ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบ น.ส. ทักษกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้ำ แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน และพบ น.ส.วัชราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ยูกิ เป็นนายหน้าจัดหาเด็กมาขายบริการทางเพศ จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากมีการแฝงขายบริการทางเพศเด็ก แล้วทางร้านยังเปิดสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกด้วย จึงได้ทำการจับกุมตัว ทั้ง 2 คน ไปดำเนินคดี ตั้งข้อหา ความผิดฐานค้ามนุษย์ (แสวงหาประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็ก) และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนชุดที่สอง เจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ภายในโรงแรมบริเวณใกล้เคียง สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้จำนวนทั้งสิ้น 6 คน ซึ่งพบว่า คนที่มีอายุน้อยที่สุด อายุ เพียง 15 ปีเท่านั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้พาตัวไปเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ National Referral Machanism (NRM) สัมภาษณ์เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต และเตรียมนำตัวส่งเข้าบ้านพักเด็กฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามุษย์ เป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ซึ่งอาจกระทบถึงเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของไทย รวมไปถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงถือเป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันช่วยแก้ไข กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลทุกข์ สุข ของประชาชน เร่งดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ยกระดับการจัดลำดับสถานการณ์การแก้ไขการค้ามนุษย์ของประเทศไทย จาก Tier 2 watchlist เป็น Tier 1 ให้ได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ กล่าวว่า จากการลงเก็บข้อมูล เบื้องต้นไม่คิดว่าจะเจอเด็กมากถึง 6 คน จึงมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยในพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัด และฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ ลงพื้นที่สถานบริการดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบผู้แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน (แม่เล้า) นอกจากนี้ ยังพบเด็กที่มีการนำมาค้าบริการในลักษณะของการซื้อชั่วโมง ซึ่งชัดเจนว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กโดยมิชอบ เข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ใช่การค้าประเวณีทั่วไป ซึ่งมีอัตราโทษที่สูงมาก และจะเข้าสู่กระบวนการ NRM โดยจะมีการคัดกรอง และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ หากสหวิชาชีพยืนยันว่า เป็นการค้ามนุษย์ก็ตะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และทำการฝึกอาชีพ เพื่อจะได้ไม่กลับมาประกอบอาชีพนี้อีก.