จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” โพสต์ข้อความและรูปภาพเงินสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความระบุว่า “แฉไป ไถไป” โดยระบุว่า มีการไปไถเงินสีเทามา 50 ล้าน ก่อนทำตัวเป็นคนดีบริจาคครั้งละ 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้ออกมาแถลงโต้กลับทนายตั้มถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ว่านำเงินไปบริจาคให้ รพ. ขณะที่ รพ. ที่รับเงินไปนั้น ได้นัดสื่อมวลชน เพื่อแถลงข้อเท็จจริงในวันที่ 24 มี.ค.

ซัดกันนัว! ‘ชูวิทย์’ เดือดตอก ‘ทนายตั้ม’ รับงานใคร ตัดขาดหลานชายเพราะเนรคุณ

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ในเฟซบุ๊กของ นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เงินสีเทา หากทนายตั้มบอกว่าผมได้มา 10 ล้าน และนำไปบริจาค 6 ล้าน เก็บไว้ 4 ล้าน ถ้าผมคิดจะเก็บไว้จริง ผมควรเก็บไว้มากกว่าที่บริจาคไหม? เช่น เก็บไว้ 6 หรือ 7 หรือ 8 ล้าน และนำไปบริจาคเพียงส่วนน้อยย่อมทำได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องบริจาคเลย เก็บไว้ทั้ง 10 ล้าน แล้วหยุดพูด เงียบๆ ไป เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี ในวันนั้นที่นำเงินมา หากโรงพยาบาลไม่สบายใจ คืนเงินมา ผมก็ต้องนำเงินไปให้ตำรวจ ก็ไม่ทราบว่าตำรวจจะทำอย่างไรกับเงินนี้ต่อไป

แต่ด้วยเจตนาดีในการนำเงินไปให้โรงพยาบาล เพื่อได้ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย หรือคนตาย คนนำเงินมาให้ก็เป็นนายตำรวจผู้ใหญ่ที่เกษียณแล้ว และผมรู้จักมานาน จิตใต้สำนึกผมแยกแยะได้ว่า อะไรคือเงินของผม และอะไรที่ไม่ใช่ สังคมพิจารณาได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร? การกระทำของผมย่อมมีคนเสียประโยชน์ที่พยายามเล่นงานผมทุกวิถีทาง แต่เมื่อผมตัดสินใจแล้ว เกมนี้เดิมพันด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ครับ

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้โพสต์ข้อความด้วยว่า “…ศิริราช กับ ธรรมศาสตร์ ประสานมาแล้วนะครับ จะคืนเงินบริจาค ผมก็จะเอาเงินไปให้ตำรวจรู้สึกสบายใจขึ้นมั้ยครับ..”

ภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีชาวเน็ตเข้ามาโพสต์ให้กำลังใจนายชูวิทย์กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับการเอา “เงินสีเทา” ไปบริจาค และควรนำไปแจ้งกับตำรวจมากกว่า.

ขอบคุณเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์