เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 24 มี.ค. 66 ที่ Studium One (จุฬาฯ ซอย 6) พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรม “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพ” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต โดยมีแกนนำพรรค เข้าร่วมอย่างคึกคัก นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบายพรรค รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร นางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรชาย บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ พี่เขย มาร่วมกิจกรรม โดยมีประชาชนมารอให้กำลังใจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่เลือกตั้งของตัวเองอย่างคึกคัก จนเต็มพื้นที่ลานกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ากิจกรรมในวันนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่มีกระแสข่าวจะมาร่วมพรรค พท. ก่อนหน้านี้ ได้มาร่วมกิจกรรมด้วย ถือเป็นการเปิดตัวร่วมพรรค พท. อย่างเป็นทางการ เพราะได้เปิดตัวด้วยการเดินมาขึ้นเวทีพร้อมกับ น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา พร้อมทั้งยังมี นายคชาภา ตันเจริญ หรือ “มดดำ” พิธีกรชื่อดัง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า 8 ปีที่เราทนทุกข์ทรมาน วันที่ 14 พ.ค. 66 จึงเป็นวันกำหนดชะตาประเทศและพวกเราทุกคน โดยเฉพาะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เราขอเชิญชวนพี่น้องจับมือเปลี่ยนประเทศ ตนเชื่อมั่นในตัวพวกท่าน กรุงเทพฯ เป็นอย่างไร ประเทศก็เป็นอย่างนั้น ถ้ากรุงเทพฯ ตัดสินใจอย่างไร ประเทศจะเป็นไปอย่างนั้น พรรค พท. ขอเชิญชวนคนกรุงเทพฯ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ พรรค พท. พร้อมทวงคืนอนาคต คุณภาพชีวิตและทิศทางที่ดีให้ เราเป็นเจ้าตำหรับแห่งนโยบาย เป็นนโยบายประชาธิปไตยที่กินได้ 12 นโยบายที่เราตั้งไว้ เราทำเพื่อคนทั้งประเทศ ถ้ากรุงเทพฯ ฟื้นประเทศก็ฟื้น เรามีผู้สมัครที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าถึงประชาชนทุกเขตเลือกตั้ง พวกนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่มาเพราะฝีมือ เพื่อรับใช้พี่น้องชาว กทม. พี่น้องต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ถ้าไม่เด็ดขาด ประเทศแตก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกฯ ต่อ 310 เสียงจึงเป็นหมุดหมายสำคัญ จึงขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.กทม. ไม่น้อยกว่า 20 เสียงขึ้นไป ขอให้เลือกพรรค พท. กทม. ให้แลนด์สไลด์ทั้ง 33 เขต

น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่าพรรค พท. ขอคิดใหญ่ เปลี่ยน กทม. จากเมืองหลวงประเทศไทย เป็นเมืองหลวงของคนไทยทุกคน 8 ปีที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯ ถูกกำกับด้วยความล้าหลัง ของระบบราชการและรัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ แต่ทุกอย่างยังคงกระจุกตัวที่กรุงเทพฯ ความแตกต่างของคนกรุงเทพฯ เป็นโจทย์ที่พรรค พท. คิดแล้วคิดอีก ที่จะพัฒนากรุงเทพฯ และคนกรุงเทพฯ ให้มีโอกาสและความหวังยิ่งขึ้น พรรค พท. จึงจำเป็นต้องคิดใหญ่เพื่อคนรุ่นใหม่ เพื่อคนกรุงเทพฯ เราจะคิดใหญ่เรื่องโอกาส กรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองแห่งโอกาส ให้คนรุ่นใหญ่เข้ามาช่วยกันขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผลักดันให้เยาวชนพร้อมแข่งขันในเวทีโลก ที่จะสร้างรายได้ให้ครอบครัวและตัวเองให้มีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี เราจะพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสายทันที เพิ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ให้ครบ 50 เขต แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในระยะยาว ปัญหาน้ำท่วม จะเร่งศึกษาสร้างเกาะและเขื่อนรอบกรุงเทพฯ โดยจะศึกษาโดยละเอียดและประหยัดที่สุด แผนของเราจะใหญ่ขึ้นตอบโจทย์คนทุกรุ่นทุกวัย การเจริญจะถูกรัดด้วยความมั่นคงและมั่งคั่งของคนกรุงเทพฯ กทม. จะใหญ่พอสำหรับพี่น้องทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัย ปรากฏว่ามีกลุ่ม ขุนพลคนของราษฎร ทำกิจกรรมข้างเวที ด้วยการชูป้ายระบุข้อความว่า แลนด์สไลด์แล้วไม่ลืมนักกิจกรรมกับผู้ต้องขังคดีทางการเมืองนะ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และไม่มีใครจ้างมา เราแค่มีความเชื่อว่าเพื่อไทย ไม่ลืมเพื่อนเรา #ปล่อยเพื่อนเรา

ส่วนนายเศรษฐา ปราศรัยว่า การทำรัฐประหารที่ผ่านมา ขับใสนักลุงทุนต่างชาติออกไป รัฐบาลที่ผ่านมาทำการค้าไม่เป็น ทำให้ประเทศเสียโอกาส คนกรุงเทพฯ แทบไม่เหลือโอกาสทางเศรษกิจ คนรุ่นใหม่ต้องไปหาโอกาสที่ต่างประเทศ กรุงเทพฯ เคยเป็นมหานครที่หลากหลายด้านความคิด แต่รัฐบาลกลับกีดกันจำกัดสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลไม่เคยยอมรับตัวตนที่แตกต่าง ไม่สนับสนุนให้คนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ทั้งเพศสภาพ การเลือกประกอบอาชีพ กรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางการบริหาร แต่วันนี้แม้แต่คนกรุงเทพฯ ยังไว้ใจรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้

วันนี้ตนมีเป้าหมายสำหรับกรุงเทพฯ ใน 3 มิติ คือเราจะเป็นมหานครแห่งเศรษกิจของเอเชีย ทลายระเบียบที่ไม่มีประโยชน์ กำจัดคอร์รัปชั่นให้คนทั่วโลกอยากเข้ามาลงทุนที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ เราจะเป็นมหานครที่หลากกลายทางความคิดและวัฒนธรรม เราต้องเปิดกว้างเปิดรับความแตกต่าง รัฐบาลเพื่อไทยจะไม่รับการลิดรอนสิทธิ ทำให้กรุงเทพฯ เป็นที่จัดงานระดับโลก จัดงานเวิลด์ไพรด์ 2028 เราจะสร้างมหานครแห่งความเท่าเทียมที่ทุกคนเท่ากัน มี ส.ส. ที่รับฟังเสียงประชาชน รับไม่ได้กับการใช้เส้นสาย รับไม่ได้ที่เห็นมาเฟียในเมืองไทย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะก่อให้เกิดวิกฤติศัทธา รัฐบาลเพื่อไทยจะเข้ามากอบกู้วิกฤติ ทำให้เสียงทุกคนเท่ากัน

“ขออวยพรให้ทุกท่านได้รับเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เข้าไปทำหน้าที่ในสภา เพื่อให้ ส.ว. 250 คน ได้ทำตามฉันทามติของประชาชน สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ทำให้ความหวังของคนกรุงเทพฯ เป็นจริง แล้วส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานทุกคน” นายเศรษฐา ระบุ.