เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ จ.สระบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค และรักษาการโฆษกพรรค และคณะ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อสอบถามปัญหากับผู้ประกอบการโคนมในพื้นที่ โดยตัวแทนสหกรณ์ฯเสนอให้ว่าหากพรรค พท. ได้เป็นรัฐบาลขอให้สนับสนุนเพิ่มการบริโภคนมโรงเรียนเป็น 365 วัน จากเดิมที่สนับสนุนถึงนักเรียนชั้นป.6 ให้ขยายไปถึงนักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งนายเศรษฐา ได้รับปากว่าหากได้เป็นรัฐบาลพร้อมจะนำข้อเสนอนี้ไปดำเนินการ

จากนั้น นพ.ชลน่าน และนายเศรษฐา ได้มีโอกาสศึกษาและทดลองเทน้ำนมดิบ เพื่อเข้าสู่ศูนย์รับน้ำนมดิบของสหกรณ์ฯ ก่อนที่เข้าสู่กระบวนการการผลิตและขนส่งเพื่อจำหน่ายต่อไป

ต่อมาเวลา 18.00 น. พรรค พท. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สระบุรี อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี นำโดยนพ.ชลน่าน และนายเศรษฐา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรคพ. รวมทั้งนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.สระบุรีทั้ง 4 เขตร่วมเวที โดยมีพี่น้องประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่

นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า พรรคพท.มาเปิดเวทีชวนพี่น้องสระบุรีคิดใหญ่ คิดใหญ่เรื่องแรกคืออีก 50 วันจะถึงวันเลือกตั้ง แต่ที่เห็นขณะนี้คือมีพรรคการเมืองเดิมๆ คือพรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทยไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เจตนาจงใจถ่ายรูปมาเผยแพร่ และประกาศจะตั้งรัฐบาล 203 เสียง พี่น้องยังไม่ให้คะแนนแต่จะจัดตั้งรัฐบาลกันแล้ว เขาบอกจับมือกับลุงตู่ ลุงป้อม แล้วเขามี ส.ว.250 คน เขาจะรวมเสียงกันได้ 376 เลือกนายกฯ ในสภาฯ ได้ ถ้าพี่น้องไม่ยอม คิดใหญ่เรื่องแรกสุดคือพี่น้องต้องจับมือกับพรรคพท.เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งคนทั้งจังหวัดให้แลนด์สไลด์ และให้ยก จ.สระบุรีด้วย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต่อให้เราได้ 260 เสียงเราก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ดังนั้น จ.สระบุรีคือหมุดหมายแรก ซึ่งจากผลสำรวจความนิยมที่ผ่านมา พรรคพท.ได้เสียงถึง 240-260 เสียง ดังนั้นขอให้พี่น้องสระบุรีช่วยเติมเสียงให้ด้วย บอกญาติพี่น้องให้เลือกพท.
ให้เกิน 310 เสียง เพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน จะได้ตัดสวาทขาดสิ้นซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ช่วยกันเอาประยุทธ์ออกไป ถ้าเราไม่กำจัดระบอบประยุทธ์ออกไป พี่น้องจะทุกข์ทรมาน ไร้อนาคต ประเทศชาติจะไร้ทิศทาง ดังนั้นวันที่ 14 พ.ค.เป็นวันตัดสินอนาคตของพี่น้องและประเทศชาติ รวมทั้งประยุทธ์ด้วย

นายอดิศร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนพูดถึงนายทักษิณมันหนักหัวใคร เพราะตนยังไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีหรือพรรคการเมืองใด ที่ทำดีแบบนายทักษิณ วันนี้ท่านไม่ได้มา แต่ท่านถูกกระทำ จากบ้านจากเมืองไป 16 ปีแล้ว วันนี้ตนได้ฟังคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนของท่านหลังจากการเลือกตั้งครั้งใหญ่นี้ ตนฟังแล้วน้ำตาไหล พรรคเพื่อไทยคือแก้วตาดวงใจ คือพันธุ์พืชที่ท่านปลูกไว้ พี่น้องต้องสนับสนุนแบบแลนด์สไลด์เท่านั้น

“แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้อนรับทักษิณกลับประเทศไทย อุ๊งอิ๊ง เศรษฐา คือแก้วตาดวงใจ พรรค พท. ต้องชนะอย่างเด็ดขาด ท่านทักษิณถึงจะเดินกลับประเทศไทยได้“ นายอดิศร กล่าว

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ตนก็เป็นลูกทหาร แต่เชื่อในอำนาจประชาขน ไม่เอาเผด็จการ ตนและ น.ส.แพทองธารเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง น.ส.แพทองธารอยากมาพบพี่น้อง แต่เนื่องจากตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว เวลาที่มาปราศรัยตามเวทีต่างๆ เห็นท่านมือเท้าชา นั่งบนเวทีก็หายใจไม่ทัน น่าสงสารและเห็นใจ แต่มีความประสงค์แรงกล้าที่อยากพบพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ วันนี้แม้ น.ส.แพทองธารไม่ได้ แต่นายพานทองแท้มา ซึ่งมีดีเอ็นเอเดียวกัน ซึ่งมีความตั้งใจมาแทนน้องสาว

“8 ปีที่ผ่านมามีแต่เรื่องไม่ดี ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เงินในกระเป๋า แต่จิตใจก็เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องกระเป๋าตังค์เยียวยาได้ แต่เรื่องจิตใจทั้งเรื่องเพศสภาพ สมรสเท่าเทียม 8 ปีบอกจะให้แต่ก็ไม่ให้ ซึ่งพรรค พท. เห็นความสำคัญ ต้องให้สิทธิเขา ส่วนปัญหาฝุ่น pm2.5 ที่มีปัญหาก็ยังสูงกว่าจีดีพีของประเทศที่โตเพียง 2.3 เท่านั้น ดังนั้นขอให้พี่น้องเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัดทั้ง 4 เขต เพื่อให้รัฐบาลเพื่อไทเข้ามาแก้ปัญหา” นายเศรษฐา กล่าว

นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า วันนี้ทุกคนมาร่วมเวทีกันหมด แต่มีหนึ่งคนไม่ห่างหายภารกิจนี้แต่เนื่องจากสภาวะตั้งครรภ์ 8 เดือนเศษ คุณหมออยากให้งดเว้นกิจกรรมหนักๆ เพราะห่วงสุขภาพ เมื่อหมอห้ามก็ให้เกียรติหมอ แต่ต้องให้เกียรติหัวใจต่อสู้ของสุภาพสตรีคนนี้ เมื่อตัวมาไม่ได้ก็ขอส่งภาพ ส่งเสียงมาพบพี่น้องชาวสระบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทีมงานได้เปิดคลิปวีดิโอ น.ส.แพทองธาร ความยาว 2.34 นาที ให้กับพี่น้องประชาชนได้รับชมรับฟัง ระบุว่า วันนี้ตัวไม่ได้ไป แต่ใจอยู่ที่สระบุรี ดีใจที่พี่น้องมาร่วมเวทีมากมาย วันนี้ขอส่งเสียงไปก่อน แต่เมื่อคลอดน้องแล้วจะเดินทางไปพบพี่น้องที่สระบุรีแน่นอน ขอส่งใจไป อย่าเพิ่งโกรธกัน วันนี้พรรคพท.มาเต็มรูปแบบ เต็มทีม

น.ส.แพทองธาร ระบุต่อว่า ในวันที่ 14 พ.ค.จะมีการเลือกตั้ง เราพร้อมมากๆ ที่จะดูแลพี่น้องประชาชน พี่น้องสระบุรีเจอปัญาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เรามีโนบายแก้ปัญหา ส่วนการขึ้นค่าแรง 600 บาทที่บอกว่าจะเพิ่มภายในปี 2570 ก็อาจจะทำได้เร็วขึ้น แต่ขอให้พี่น้องอดใจรอ

“ขอให้พี่น้องเข้ากูหาเลือกเพื่อไทยทั้งสองบัตร ตอนเลขยังไม่มา แต่ถ้ามาแล้วขอให้จำให้ดีๆ และขอฝากผู้สมัครทั้ง 4 เขตให้เข้าไปสภาฯ เพื่อโหวตยกมือผ่านนโยบายดีๆ แล้วไว้เจอกันนะคะ” น.ส.แพทองธาร ระบุ.