เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี น.ส.จิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับปัญหาการจัดลำดับผู้สสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า น.ส.จิตภัสร์ ขอลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ แต่ตนยังไม่เห็นสิ่งที่ น.ส.จิตภัสร์ โพสต์ เมื่อถามว่า น.ส.จิตภัสร์ เคยมาพูดคุยกับนายจุรินทร์ ถึงเรื่องลำดับในระบบบัญชีรายชื่อบ้างหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เคยคุยกัน ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ดูแลทุกคนด้วยความเป็นธรรมและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมดจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 29 มี.ค. 66

ต่อข้อถามว่าจะเชิญให้ น.ส.จิตภัสร์ มาพูดคุยปรับความเข้าใจในเรื่องนี้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม จึงยังตอบไม่ถูก

ผู้สื่อข่าวถามว่าใช้หลักเกณฑ์ใดในการจัดลำดับดังกล่าว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีหลักเกณฑ์ที่ใช้ปฏิบัติกันมาทุกสมัย และเป็นไปตามข้อบังคับพรรค โดยพรรคมีระบบและระเบียบชัดเจน ขณะเดียวกัน พรรคจะพิจารณาอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมที่สุด โดยเรามีบุคลากรหลายคนที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถ มีความอาวุโส รวมถึงมีคนรุ่นใหม่ มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จึงต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ผสมกันไปให้ออกมาดีที่สุดสำหรับพรรค ซึ่งจะต้องมีการพูดถึงเรื่องเหล่านี้ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคฯ

เมื่อถามว่าหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเสร็จแล้ว จะทราบลำดับของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่าจะได้ทราบว่าใน 100 รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะมีใครบ้าง ส่วนการจัดลำดับรายชื่อนั้นขึ้นอยู่ที่ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ จะมีความคิดเห็นร่วมกันอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.จิตภัสร์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับพรรคประชาธิปัตย์ ???? ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก

ตลอดระยะ 13 ปี บนเส้นทางการเมืองที่ได้มีโอกาสไป 76 จังหวัด ได้รับฟังปัญหา หาทางแก้ไขประสานงานเพื่อพี่น้องประชาชนมาตลอด ได้มีโอกาสทำงานกับผู้หลักผู้ใหญ่มากประสบการณ์ ทั้งเรียนรู้และปฏิบัติเอง นี่คือเส้นทางที่เราเลือกแล้ว เส้นทางการเมืองนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ผ่านมาทุกรูปแบบ งานในสภา ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน ตั๊นก็ขอทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติตลอดไปค่ะ