เมื่อวันที่ 6 เม.ย. เวลา 10.05 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวทีมผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมมอบธงชัยพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นธงแห่งความรับผิดชอบต่อพรรคภูมิใจไทย และรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน เพื่อหาเสียงตอกเสาเข็มในพื้นที่ของตัวเอง จากนั้นนายอนุทิน กล่าวกับสมาชิกตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือเป็นวันสถาปนาพรรคภูมิใจไทย ตรงกับวันมหามงคลของไทย คือวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นวันที่พรรคภูมิใจไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีความหมายต่อพรรค และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ยึดมั่นอุดมการณ์ ที่จะเกื้อกูลปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพบูชาของพวกเราไว้ชั่วชีวิต นับตั้งแต่สถาปนาพรรคภูมิใจไทย จนถึงงตอนนี้ และจะอยู่เช่นนี้ตลอดไป ตราบใดที่เรายังเป็นพรรคภูมิใจไทย เราจะดำรงอยู่เพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยและประเทศไทย สมดังสโลแกนของพรรค คือ “พูดแล้วทำ”

วันนี้ 6 เม.ย. ยังเป็นวันสำคัญพิเศษที่พรรคภูมิใจไทย จะต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้งทุกคน เป็นวันที่สมาชิกมาพบปะกัน มอบธงชัยและตั้งใจลงพื้นที่พบปะประชาชน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรค ให้ประชาชนเข้าใจและเห็นประโยชน์ที่ได้จากการลงคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ขอให้ทุกคนตั้งใจลงพื้นที่ ทุ่มเทหัวใจ เคารพ และให้เกียรติประชาชน ส่วนผู้บริหารพรรคก็จะลงพื้นร่วมชงพื้นที่ 7 วันต่อสัปดาห์ หยุดแค่เวลานอน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ทั้งขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ภูมิใจไทยมีเอกลักษณ์พิเศษ คือมีระเบียบวินัยสูง มีความเป็นพวกพ้อง เป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว ซึ่ง 4 ปีที่สภาเพิ่งหมดวาระไป เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า แม้ทุกคนจะมีเอกสิทธิ์ของความเป็น ส.ส. แต่ ส.ส. สังกัดพรรคภูมิใจไทยทุกคน เชื่อมั่นว่าภูมิใจไทยตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จึงไม่เคยแตกแถว 4 ปีที่ผ่านมา ในการอภิปรายไม่ไว้ไว้วางใจ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงตน เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นเกมการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงสำคัญ เขาจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ทุกครั้ง รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย สามารถชี้แจงข้อกล่าวหา ผ่านมาทุกครั้ง ได้คะแนนสูง ไม่ที่ 1 ก็ที่ 2 ตลอด

ที่สำคัญ พรรคภูมิใจไทยยกให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง แต่พรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ครบทุกครั้ง ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะเราเชื่อในความเป็นพรรคภูมิใจไทย ตราบใดที่พรรคภูมิใจไทยยังยกให้พวกเราอย่างเป็นเอกฉันท์ แสดงว่าความเชื่อมั่นของสมาชิกยังมีต่อหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รัฐมนตรีของพรรค แค่นี้ก็สำคัญที่สุดแล้ว ทำให้การเลือกตั้งในปี 66 นี้ มีพี่น้องมาสมัครร่วมทำงานกับเราเต็มที่นั่งที่เตรียมไว้ และเราจะทำให้ท่านเห็นและอยู่กับเราไปตลอด เพราะเราใช้หลักการปลูกฝังให้สมาชิก ไม่ได้สั่ง ไม่ใช่บอก ไปที่ไหนเคารพ ศรัทธา ให้เกียรติประชาชน รัฐมนตรีคนที่มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่เจ้าคนนายคน ตรงกันข้ามคือผู้รับใช้ประชาชน นี่คือเกียรติประวัติ และขอให้ใช้เกียรติประวัตินี้ รับใช้บ้านเมือง รับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ แล้วประชาชนจะให้ความเชื่อมั่นศรัทธา เลือกกี่ครั้ง ท่านก็เดินกลับเข้าสภาอย่างสง่าผ่าเผย

“วันนี้เขาบอกว่าสภาพอากาศจะร้อนมากที่สุดกว่า 50 องศาเซลเซียส แต่ผมไม่เชื่อ เพราะตอนนี้พรรคภูมิใจไทย ร้อนกว่าถึง 100 องศาฯ เดือดปุดๆ เราเป็นนักรบ พร้อมลงพื้นที่ 14 พ.ค. นี้ ขุนพลพรรคภูมิใจไทย จงไปเอาชัยชนะมาให้ตัวท่าน ให้พรรคภูมิใจไทย เพื่อคนไทย และประเทศไทยทุกคน”

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้ สัญญาณต่างๆ ดีหมดแล้ว พรรคภูมิใจไทยได้เบอร์ 7 ตรงกับหัวหน้าพูดมาตลอดคือ จะต้องตอกเสาเข็ม เราจะไม่ต้องมีคำพูดแลนด์สไลด์ ไม่ต้องมีคำว่าถล่มทลาย มีแต่คำว่าตอกเสาเข็ม ทำให้มั่นคง ส่วนเลขที่ผู้สมัครจับได้มา ไม่ว่าจะเลขอะไรก็แล้วแต่ เท่าที่ทราบมาไม่เกินเบอร์ 20 ดังนั้น 1-20 นับว่าดีทั้งหมด ส่วนตนไปหาอาจารย์ที่เคารพมา เพราะเครียด มีความเป็นห่วง และไม่อยากได้เลข 2 หลัก อยากได้หลักเดียว อาจารย์ขีดๆ เขียนๆ อาจารย์บอกต้องได้เบอร์ 7 เท่านั้น ส่วนหลังวันที่ 14 พ.ค. อาจารย์บอกว่า เห็นเป็นเลข 3 หลัก ตนคิดว่าเมื่อเริ่มต้นดีแล้ว ได้เบอร์ 7 ตอนจบสุดท้ายเลข 3 หลักนั้น จะออกมาเป๊ะทุกประการ เพราะเลข 3 หลักที่อาจารย์ให้มานั้น ตรงกับที่ตนคำนวณเอาไว้เลย วันนี้วัคซีนที่สำคัญของเรา และตนฉีดให้กับทุกคนแล้ว คือวัคซีนป้องกันตาแหก ปอดแหก เพื่อทุกคนจะได้ตาโต ตาใส มั่นคงแข็งแกร่ง ต่อสู้จนเราได้รับชัยชนะ เบอร์ 7 สู้ตรงนี้ สู้ที่นี่ สู้จนคนไทยชนะไปด้วยกัน

“ขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่ยกตำแหน่งให้ใคร ถ้าได้คะแนนเสียงสูงสุด เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คือตนนี่แหละ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นทั้ง ส.ส. เป็นทั้งนายกฯ ไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์เท่าพรรคภูมิใจไทยแล้ว สภาจะไม่เป็นเหมือนชุดที่แล้ว เพราะจะเข้าใจสมาชิกและห่วงใยสภา หวงแหนความรู้สึกประชาชน ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 ที่กำลังจะถึง เมื่อผ่านไป พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สภาจะเข้มแข็ง ผลงานต่างๆ จะออกมา กฎหมายต่าง ๆ จะออกมา คุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีขึ้น เศรษฐกิจจะดีขึ้น สุขภาพคนไทยจะดีขึ้น ภูมิใจไทยจะแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรคมา” นายอนุทิน กล่าว.