จากวิกฤติฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติฝุ่นนี้ โดยทางผู้ปกครองของเด็กหญิงเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน พบว่าฝุ่นวิกฤติอย่างหนัก แต่ก็ต้องพาลูกสาวไปเรียนพิเศษในตัวเมือง ก่อนขึ้นรถในช่วงเที่ยง ได้นำเครื่องวัดอากาศตรวจสอบ พบว่า มีค่าฝุ่นหมอกควัน 525 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในรถของตนนั้น มีเครื่องฟอกอากาศ

โดยระหว่างเดินทาง เครื่องฟอกอากาศได้ฟอกเหลือ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กระทั่งขับรถถึงช่วง ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย เพื่อจะเข้ามาในตัวเมือง พบว่า ลูกสาวเกิดเลือดไหลออกจมูก ตนได้ใช้กระดาษซับเลือดให้ลูกสาว เลือดไหลออกมาเยอะมาก คาดน่าจะมาจากฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจพาลูกสาวกลับบ้านทันที ขนาดผู้ใหญ่ยังรู้สึกแสบจมูก แสบตาเลย เด็กเล็กจึงไม่ไหว เลือดไหลออกมาเพราะฤทธิ์ฝุ่นขนาดเล็ก

ทั้งนี้ เว็บไซต์ Iqair.com รายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 6 เม.ย. 66 พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 332 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 282.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าว พบว่าค่ามลพิษสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก รองลงมา ได้แก่ อันดับ 2 เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ดัชนีคุณภาพอากาศ 175 US AQI, อันดับ 3 เมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย 165 US AQI, อันดับ 4 เมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย 158 US AQI และอันดับ 5 เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน 158 US AQI

ขอบคุณข้อมูลและภาพ Iqair.com