เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายผลกรณีจับกุมหัวหน้าฝ่ายประเมินรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับผลประโยชน์ 3.2 ล้านบาท จากผู้ประกอบการ แลกกับไม่ต้องการเสียภาษีโรงเรือนตามจริง 42 ล้านบาท ว่าทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตราชเทวี 11 คน มาให้ปากคำในวันนี้ รวมถึงเชิญ ผอ.ราชเทวี มาให้ข้อมูลด้วย เนื่องจากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง

โดยทาง พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ประสานงานพาเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมาพบพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการที่เกี่ยวกับการไปตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ และสถานประกอบการในพื้นที่ ตามที่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าฝ่ายประเมินรายได้ หรือปรากฏชื่อในแผนผัง สมุดบันทึก หรือเอกสารต่างๆ ที่ตำรวจตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้รู้ว่าใครรับผิดชอบอะไร ทำหน้าที่อะไร รู้เห็นกับการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ให้การเป็นประโยชน์

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพยานหลักฐานที่เชื่อว่าจะขยายผลเชื่อมโยงไปอีกกว่า 100 คดีนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังพบผู้กระทำความผิดชัดเจนร่วมกับหัวหน้าฝ่ายประเมินรายได้เพิ่มอีก 1 คน เป็นลูกน้องคนสนิททำหน้าที่เก็บเงินและประสานงานกับผู้ประกอบการ ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการขยายผล และเตรียมตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังไปถึงปี 2560 เพราะอยู่ในช่างเวลาที่นายประมวล ดำรงตำแหน่งที่เขตพญาไท

ปปป.บุกค้นคอนโดฯสาวคนสนิทจนท.เขตราชเทวีฉาว พบหลักฐานส่อเอี่ยวรีดเงินเลี่ยงภาษี

งามไส้! ซ้อนแผนรวบ ‘จนท.ระดับสูงเขตราชเทวี’ เรียกรับ 3.2 ล้าน แลกไม่ต้องจ่ายภาษี

ด้าน พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า ทางกรุงเทพมหานครยืนยันนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การเรียกรับผลประโยชน์ด้านต่างๆ จากประชาชนอย่างจริงจัง หลังพบช่องโหว่จากปัญหาการขออนุญาตของสถานประกอบการ หรือสถานบริการที่มีความล่าช้าสูง และประชาชนไม่ทราบกรอบระยะเวลาที่แน่นอน พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับแก้หลักคิดภาษีแบบใหม่แทนการให้สิทธิดุลพินิจกับเจ้าหน้าที่เป็นผู้ประเมินภาษี เพื่ออุดช่องว่างในการหาผลประโยชน์ โดยให้กรมธนารักษ์ประเมินภาษีจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่เนื่องจากช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านการคิดภาษีแบบเดิมกับแบบใหม่ จึงทำให้ยังมีเจ้าหน้าที่อาศัยการคิดภาษีแบบเดิมหาผลประโยชน์ ซึ่งทางกรุงเทพมหานครยืนยันจะไม่มีการปกปิดความผิด ปิดข่าว หรือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่นอกรีตและจะให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำให้การของนายประมวล หลังถูกจับกุมที่ยืนยันว่า ถูกกลั่นแกล้ง และไม่ทราบด้วยว่า ในถุงกระดาษที่ถือออกจากโรงแรมจะใส่เงินไว้ คิดว่าเป็นแค่เอกสารนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. มั่นใจว่า จะสามารถหักล้างคำกล่าวอ้างดังกล่าวได้ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอเหตุการณ์ ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายกับผู้ต้องหา ส่งมอบเงินของกลางกันภายในโรงแรมจุดเกิดเหตุ โดยฝ่ายผู้เสียหายยังได้เปิดถุงสีเขียวให้ผู้ต้องหามองเข้าไปดูของที่อยู่ด้านในถุง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินแยกย้ายกันไป ซึ่งเป็นคลิปหลักฐานยันชัดว่า เจ้าหน้าที่เขตราชเทวีรับเงินสินบนจริง โดยย้อนแย้งคำให้การว่าถูกกลั่นแกล้ง.