เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. วานนี้ (13 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งมีเด็กชายวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้าน บริเวณหน้าโรงเรียนปากพลีวิทยาคาร อ.ปากพลี จ.นครนายก เดินทางไปตรวจสอบบ้านดังกล่าว เป็นห้องเช่ามีเพียงห้องเดียว ส่วนห้องอื่นๆ ใกล้เคียงไม่มีผู้อยู่อาศัย ด้านหลังห้องเช่าเป็นทุ่งนาขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำ 3 บ่อ พบพ่อและแม่เด็กวัย 3 ขวบ ระบุว่า ช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. ลูกชายได้เดินออกไปเล่นบริเวณทุ่งนา หลังห้องเช่า โดยมองเห็นลูกในระยะสายตาที่มองเห็นได้เป็นเงาๆ กำลังเดินออกไปไกล จึงรีบขี่รถ จยย. ออกไปเพื่อที่จะรับกลับบ้าน แต่ด้วยทางเข้าทุ่งนา ถ้าหากจะขี่รถ จยย. เข้าไปต้องอ้อม โดยใช้เวลากว่า 5 นาที ถึงจะสามารถวนรถเข้าไปถึงจุดที่เห็นลูกเป็นครั้งสุดท้ายได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ระดมกำลังเร่งกันตามหาทั้งภายในทุ่งนา และบริเวณคลองน้ำต่างๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยใดๆ กระทั่งพบพิรุธจากพ่อและแม่ของเด็ก ซึ่งให้การไม่ตรงกัน เช่น เรื่องสีเสื้อผ้า จุดที่เด็กหายไป ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังซักถามความชัดเจน พ่อและแม่เด็กก็ยังมีการทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ให้พ่อและแม่เด็ก เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปากพลี ไว้ก่อน โดยช่วงเช้าจะส่งเจ้าหน้าที่ออกค้นหาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากช่วงเวลากลางคืนนั้นมืดมาก การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมด จึงได้สั่งยุติการค้นหาทันที ช่วงเวลา 22.00 น.

ต่อมา เพจเรื่องจริงนครนายก ได้โพสต์ข้อมูลตามหาเด็ก โดยใครพบเห็นให้แจ้ง 191 หรือติดต่อทางเพจ ซึ่งมีคนแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ผ่านไปประมาณ 1 ชม. เวลา 23.00 น. ได้มีพลเมืองดีเจอตัวเด็ก ที่ถนนหมายเลข 99 โค้งปากพลี มุ่งหน้าขึ้น จ.ปราจีนบุรี ห่างจากจุดที่หายตัวประมาณ 3 กม. พลเมืองดีได้พาน้องมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดอำนวยความสะดวกทางถนนช่วงเทศกาล ใกล้กับบริเวณจุดที่เด็กหายตัวไป จึงได้รีบหาข้าวหาน้ำให้กินทันที เนื่องจากมีสีหน้าที่อิดโรย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเช็กร่างกายว่าได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่ พบร่องรอยบาดแผลการถูกตีหลายจุด เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าไปโดนอะไรมา เด็กตอบว่า “พ่อทำ พ่อตี” เจ้าหน้าที่ต่างพากันสงสารเด็กอย่างมาก และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ มานำตัวเด็กเพื่อไปดูแลที่ สภ.ปากพลี ชั่วคราว

อย่างไรก็ดี เพจเรื่องจริงนครนายก ได้ประสานกับ พมจ.นครนายก ให้เข้าช่วยเหลือเด็กโดยเร่งด่วนแล้ว หลังจากปรากฏว่าเด็กถูกทำร้าย ซึ่งต่อมาทราบว่า พ่อเด็กเป็นเพียงพ่อเลี้ยง ไม่ใช่พ่อแท้ๆ เบื้องต้นจะรับตัวเด็กไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ก่อน และจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.