เป็นหนึ่งในไอดอลของวัยรุ่นยุค 2000 เลยทีเดียว สำหรับ เขื่อน ภัทรดนัย หรือ เขื่อน K-OTIC ที่นอกจากจะสร้างความสุขให้กับแฟนๆ กับผลงานของเขาแล้ว ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตในรูปแบบที่ตัวเองกำหนด และมีความสุขกับทางเดินที่ตัวเองได้เลือก และที่สำคัญในตอนนี้ เขื่อน ยังได้ผันตัวเป็นนักจิตวิทยาเบื้องต้นอีกด้วย ล่าสุด เขาได้มาพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตผ่านรายการ Club Friday Show แบบจัดเต็ม

เขื่อน เผยว่า “ตัวนิยามที่เข้ากับ เขื่อน มากที่สุดเลยคำว่า Queer คำว่า Queer ก็คือ ตัว Q ครับ ไม่ใช่เจเนอร์อย่างเดียว แต่เป็นการใช้ชีวิตไม่ตายตัว มีความลื่นไหล เป็นคำที่หาคำนิยามไม่ได้ครับ จริงๆ แล้ว เขื่อน หลงรัก เขื่อน มีใจ สนใจคนทุกรูปแบบ เรื่องบูลลี่ตอนเด็กๆ คือโดนบูลลี่หนักมากๆๆๆ ตอนที่อยู่กามิกาเซ่ ตอนนั้นประมาณ 13-14 บางคนเขาพูดว่าเราเป็นกะเทย เป็นตุ๊ด ทำตัวเป็นผู้ชายหลอกเราอยู่ พอโตมาก็ยังเยอะอยู่ใน DM หรือ ข้อความถูกขู่ฆ่า ขู่ทำร้ายร่างกาย เพราะเขาเห็นเราแล้วไม่พอใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้จักเราเลย นี่เป็นที่แรกเลยแล้วกันเนอะ อย่าง อิ้งค์ วรันธร เขื่อน ชอบแล้วก็รู้สึกดี เราก็รู้สึกดีเราก็ใช้เวลาด้วยกัน ใจเรา กายเราชอบเขาแต่เสียงในหัวบอกเราว่าใช่เหรอ เขื่อน เธอไม่มีลองในโลกชาย-หญิงนะ เราก็บอกเขาไปตรงๆ เขาก็นะว่าเราก็ชอบแกเหมือนกัน เรื่องแต่งงานแต่รักพังทลาย เป็นรักที่ลงตัว เราเจอตรงกลางทำงานสุขภาพจิตเหมือนกัน มีหนวด มีพุง ชอบเลยคนนี้คลิกมาก เราขอแต่งจนมาถึงวันที่รักมันพังทลาย เราก็โทรฯ หาแม่ว่า คุณแม่หมวยเลิกกับคนนี้แล้วนะ คุณแม่พูดคำเดียว กลับบ้านลูก”

“ที่เขื่อนจำความได้คุณแม่บอกเลยว่าคุณแม่มีลูกเพราะว่าลูกต้องดูแลพี่สาวนะคือ พี่สาวของเขื่อน เป็นออทิสติกครับ พักเที่ยงก็ดูแลพี่สาวเลิกเรียบก็ต้องพาพี่กลับบ้าน อันที่สองคือ คุณแม่เป็นโรคไบโพลาร์ เพราะฉะนั้น คุณแม่กับพี่สาวเป็นคนที่ทำให้ เขื่อน เปลี่ยนสายอาชีพ เปลี่ยนทุกอย่าง ตัดสินใจมาทำงานทางด้านนี้ครับ”