เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า พรรค พท.มี 2 ประเด็นที่ต้องชี้แจงต่อ กกต. คือเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท และการซื้อบัตรประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งอาจจะส่อไปในทางทุจริต โดยทางพรรคได้เตรียมข้อมูลแล้ว ในส่วนของตนเรื่องการซื้อบัตรประชาชนจะเลื่อนเป็นวันที่ 20 เม.ย. 66 เนื่องจากวันที่ 18 เม.ย. ติดภารกิจ ส่วนเรื่องนโยบายต้องรอสรุปวันจันทร์อีกครั้งก่อน ตนยังไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่าข้อมูลพร้อมและเชื่อว่าการชี้แจงครั้งนี้จะทำให้ กกต.สิ้นข้อสงสัย เพราะเราจะวิเคราะห์ที่ไปที่มาทางการเงินตามระเบียบทุกอย่าง

นายประเสริฐ ยังให้สัมภาษณ์กรณีผลโพลของเดลินิวส์-มติชน ที่พรรค พท. ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่ง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นอันดับที่สอง ขณะที่ตัวบุคคลเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นำเป็นอันดับหนึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เป็นอันดับ 2 และนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เป็นอันดับ 3 จะมีการปรับกลยุทธ์อะไรในการหาเสียงหรือไม่ ว่า โพลมีหลายสำนัก บางโพลก็เป็น น.ส.แพทองธารนำ แต่ตัวพรรคและเขตจะเป็น พท.นำ และพรรคมีการปรับกลยุทธ์ในการหาเสียงตลอด และลงพื้นที่อย่างหนักอยู่แล้ว

แต่ในโค้งสุดท้าย ต้องดูผลโพลว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป แต่เรายังเชื่อมั่นว่าประชาชนยังไว้วางใจพรรค พท.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. อยู่ รวมทั้งมั่นใจว่าจะการเลือกตั้งครั้งนี้ฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะฝ่าย 3 ป. ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีฐานคะแนนพรรคเก่าสนับสนุนอยู่

ทางด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งใน จ.สมทุรปราการ ครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มข้น การแข่งขันสูงเป็นอย่างมาก ทำให้ตอนนี้บางพรรคเริ่มเล่นเกมสกปรก โดยให้หัวคะแนนเดินซื้อเสียงประชาชนกันบ้างแล้ว พรรคที่เคยจ่ายเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ครั้งนี้ก็ทำเช่นเดิมด้วยวงเงินที่สูงขึ้นจำนวน 2,000-3,000 บาท บางพื้นที่มีการจ่ายกันก่อนครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งได้ช่วงเลือกตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยที่ไม่กลัวความผิด จึงอยากให้ กกต. เข้ามาตรวจสอบเพื่อเป็นการป้องปรามให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสยุติธรรม  

“อยากวิงวอนไปถึงประชาชนว่า เงินที่เขาใช้มาซื้อเสียง ถือเป็นบ่อเกิดของการทุจริตคอร์รัปชั่น หากเขาได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาต้องหาช่องทางเอาเงินเหล่านั้นคืนมาอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงขอร้องประชาชนอย่ากาบัตรให้คนที่จ่ายเงินซื้อเสียง เพื่อเป็นการปิดกั้นวงจรอุบาท และให้เลือกตั้งโดยตัดสินใจที่นโยบายว่านโยบายของพรรคไหนจะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต ขออย่ามองแค่เงินตรงหน้า แต่ให้มองอนาคตประเทศและตัวเองเป็นสำคัญ” นายวรชัย กล่าว