เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายณรงค์ศักดิ์ อ้อทอง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ และพระสมุห์ศรีวิชัย วิสุทฺโธ เจ้าคณะอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ รุดเข้าตรวจสอบที่พักสงฆ์เทวสถานบ้านจหมื่น ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ภายหลังมีกระแสในโซเชียล กรณีพระอาจารย์มีทันใจ ไวสูงเนิน อายุ 50 ปี กล่าวอ้างว่า มีปรอทป่า โดยพบขณะเดินทางไปปฏิบัติธรรมในป่าเขา บริเวณถ้ำแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งวิธีหาจับเอาปรอทป่าในป่าเขาธรรมชาติ โดยทำพิธี นั่งกรรมฐาน ก่อนท่องคาถาวิชาอาคม เพื่อเรียกปรอดป่าให้ออกมาใช้หมอดินและลูกมะพร้าว มาเป็นกับดัก เมื่อจับได้แล้วบรรจุไว้ในกะลาลูกมะพร้าวแห้งตาเดียว แล้วปิดผ้ายันพันรัดรอบด้วยด้ายสายสิญจน์แล้วนำกลับมาไว้ที่วัด ซึ่งทางความเชื่อคนโบราณเชื่อว่า ปรอทป่ามีอิทธิฤทธิ์ อำนาจศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองเจ้าของผู้ครอบครองให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง และยังมีสรรพคุณป้องกันคุณไสยต่างๆ ไม่ให้มาทำอันตราย ผู้ที่ครอบครองได้พ้นภัยอันตรายดังกล่าว จนเป็นข่าวฮือฮา

เมื่อคณะเดินทางไปถึงพบว่า พระมีทันใจ ไวสูงเนิน หัวหน้าที่พักสงฆ์เทวสถานบ้านจหมื่น ไม่อยู่ภายในที่พักสงฆ์เทวสถานบ้านจหมื่นแล้ว สอบถามลูกศิษย์ที่เฝ้าสถานที่ดังกล่าวทราบว่า พระมีทันใจ เดินทางออกจากสำนักปฏิบัติธรรมไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จึงตรวจสอบบริเวณโดยรอบสำนักสงฆ์ดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รวมประชุมหารือกันได้มอบหมายให้ เจ้าอธิการประเทือง ปภากโร เจ้าคณะตำบลกุดเลาะ และพระสมุห์ศรีวิชัย วิสุทฺโธ เจ้าคณะอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ได้เรียก พระมีทันใจ ไวสูงเนิน มาสอบถามหาต้นสายปลายเหตุ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของทางพระต่อไป

นายณรงค์ศักดิ์ อ้อทอง ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับรายงานจากและเจ้าอธิการประเทือง ปภากโร เจ้าคณะตำบลกุดเลาะ อ.เกษตรสมบูรณ์ ว่าหลังทราบเรื่องได้เรียกพระมีทันใจ ไวสูงเนิน มาสอบถามและทราบว่าพระมีทันใจ ได้กระทำการดังกล่าวจริงอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าอธิการประเทือง ปภากโร จึงว่ากล่าวตักเตือนไปพร้อมกับทำทัณฑ์บนไว้เพราะเป็นการกระทำผิดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเป็นการกระทำเป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันด้านสาธรณสุขอำเภอ ได้แจ้งเตือนชาวบ้านทราบว่าการที่นำปรอท ที่เป็นสารอันตรายต่อร่างกายออกมาเผยแพร่และจับต้องนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อร่างกาย จึงได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนกรณีที่พักสงฆ์เทวสถานบ้านจหมื่น ได้ก่อสร้างอยู่ในเขตป่าสงวนนั้นทางป่าไม้ จะได้ให้ทางพระมีทันใจ ทำเรื่องขอใช้สถานที่ดังกล่าวให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ต่อไป