เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านสำโรงเกียรติ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ต่างพากันฮือฮา พระ เณร นำต้นทุเรียนภูเขาไฟ มาปลูกรอบอุโบสถ รวม 7 ต้น พร้อมสวดมนต์ นำน้ำมนต์มารดทุกวันพระ ซึ่งไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน สร้างความสนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

พระครูอรุณ ปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ เล่าว่า เหตุที่นำต้นทุเรียนภูเขาไฟมาปลูกรอบอุโบสถ ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากว่า พื้นที่ อ.ขุนหาญ เป็นหนึ่งใน 3 อำเภอ ที่มีการจดแจ้ง GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นพื้นที่ดินแดนภูเขาไฟ ประกอบกับพื้นที่รอบอุโบสถยังคงเป็นพื้นดิน ยังไม่ได้มีการเทพื้นคอนกรีต จึงมีแนวคิดนำต้นทุเรียนภูเขาไฟมาปลูกรอบอุโบสถ โดยนำดินจาก 3 ภู ประกอบด้วย ดินภูเขาไฟ ภูขมิ้น และภูเขาพนมดงรัก มาปลูก ซึ่งขณะนี้ต้นทุเรียนดังกล่าว มีอายุกว่า 3 ปี แล้ว คาดว่าปีหน้าจะเริ่มออกผลผลิตเป็นปีแรก

อาตมาเชื่อว่าบางคนอาจยังไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักต้นทุเรียน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวและญาติโยม ที่เดินทางมากราบนมัสการขอพรหลวงพ่อพระตาตน ที่วัดทำบุญแล้ว ก็จะได้เห็นและได้ชิมรสชาติของทุเรียนภูเขาไฟ ที่กรอบนอก นุ่มใน ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน อร่อยจริง พร้อมกันนี้ อาตมายังได้เชิญชวนชาวบ้านให้ปลูกทุเรียนภูเขาไฟอย่างน้อยหลังคาเรือนละต้น ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี มีชาวบ้านมาเรียนรู้วิธีปลูกทุเรียนกับอาตมาอย่างต่อเนื่อง ปลูกอย่างไรให้โต และรอดจนออกผลผลิต โดยใช้หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการปลูก

ทั้งนี้ ความพิเศษของทุเรียนภูเขาไฟ ทั้ง 7 ต้นนี้ ไม่เหมือนใครในโลก เพราะปลูกในพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ ภายในเขตรอบรั้วอุโบสถ และยังมีการนำน้ำมนต์ที่มีการสวดปาฏิโมกข์ทุกวันพระ ที่พระสงฆ์ลงอุโบสถ นำมารดต้นทุเรียนภูเขาไฟเป็นประจำ โดยคนในพื้นที่เชื่อว่าน้ำปาฏิโมกข์ หรือน้ำมนต์ที่ผ่านการปลุกเสก เป็นน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ใครได้นำน้ำมนต์ปาฏิโมกข์ไปดื่ม หรือประพรมศีรษะจะเป็นมงคล เป็นสิริมงคลยิ่ง หรือนำไปรดน้ำต้นไม้ ก็เชื่อว่าต้นไม้จะดก ต้นไม้จะสวย และสมบูรณ์ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของคนในเขตพื้นที่ หลังจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทราบข่าว ก็ต่างพากันแห่จองทุเรียนภูเขาไฟ ที่ปลูกอยู่รอบอุโบสถ ข้ามปี อย่างคึกคัก เพราะเชื่อว่า นอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ยังถือเป็นผลไม้มงคล มีความขลังศักดิ์สิทธิ์ หากได้รับประทานแล้วเชื่อว่าจะเป็นมงคลต่อชีวิต.