สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า พล.ต.อ.ราซารูดิน ฮูเซน ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจกำลังตามหาผู้ต้องสงสัยมากกว่า 2 คน ซึ่งรวมถึงชาวมาเลเซีย และชาวต่างชาติ

ตำรวจมาเลเซียระบุว่า ชายคนดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า นายชาลอม อาวิตัน เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เข้ามาในมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยแสดงหนังสือเดินทางฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าเป็นเอกสารปลอม และในวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา อาวิตันถูกควบคุมตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยเขาแสดงหนังสือเดินทางอิสราเอลต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเอกสารจริง

ภายหลังการจับกุม อาวิตัน กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า เขาเดินทางมายังมาเลเซีย เพื่อตามหาชาวอิสราเอลอีกคนหนึ่ง เนื่องจากความขัดแย้งในครอบครัว แต่รายงานของสื่อบางแห่งระบุว่า เขามีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม

“ตำรวจกำลังสืบสวนอาวิตันในทุกด้าน รวมถึงข้อสงสัยว่าเขาเป็นสายลับของอิสราเอลหรือไม่ ซึ่งเราต้องการทราบแรงจูงใจของเขา ในการมายังมาเลเซีย พร้อมกับปืนพก 6 กระบอก” พล.ต.อ.ราซารูดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งให้มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามสถานที่สำคัญทุกแห่งในประเทศ โดยเฉพาะที่พระบรมมหาราชวัง และบ้านพักของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ให้เพิ่มมาตรการอารักขาเป็นขั้นสูงสุดแล้ว

ตามข้อมูลจาก พล.ต.อ.ราซารูดิน อาวิตันซื้อปืนและกระสุนทั้งหมดจากคู่รักชาวมาเลเซียที่ว่างงาน ซึ่งได้รับอาวุธมาจากประเทศไทยอีกที ซึ่งในขณะนี้ คู่รักดังกล่าว และชาวมาเลเซียอีกคน ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน

อนึ่ง มาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และสนับสนุนการเป็นมลรัฐของปาเลสไตน์มาอย่างยาวนาน ขณะที่รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ชุดปัจจุบัน วิพากษ์วิจารณ์การทำสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาอย่างหนักมาตลอด และยืนยันว่า การมีความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส “เป็นกิจการภายใน” ของมาเลเซีย.

เครดิตภาพ : AFP