เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับตำรวจชุดสืบสวนคดี น.ส.แอม อดีตภรรยารอง ผกก.สภ.บ้านโป่ง ก่อเหตุฆาตกรรมหลายสิบศพ ว่าผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ แต่ในส่วนของการสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตนั้น เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ตนได้ไล่คดีมีทั้งหมด 10 ศพ รวมถึงยังมีผู้เสียหายอีกราย นับเป็นรายที่ 11 เป็นผู้หญิงและเป็นภรรยาของตำรวจที่ไปรับประทานอาหารกับผู้ต้องหาเช่นกัน โดยมีอาการอาเจียนและสงบ แต่ไม่ถึงเสียชีวิต ซึ่งถ้าสังเกตจะอยู่ในแวดวงตำรวจทั้งหมด เพราะตัวผู้ต้องหาเองก็เป็นภรรยานายตำรวจ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสิ่งที่ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกโรงพัก อาทิ สภ.ลูกแก สภ.เมืองนครปฐม สภ.บ้านโป่ง สภ.เมืองอุดรธานี เป็นต้น บางท้องที่เหตุเกิดซ้ำกันสองครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ดังนั้น สิ่งที่สามารถเกี่ยวข้องได้ทันทีหรือเชื่อมโยงได้คือการผ่าชันสูตรศพ วันนี้จึงมีพยานหลักฐานจากแพทย์ยืนยันว่าน่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมและอายัดตัวผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งตนได้สั่งให้ชุดสืบสวนทั้งของกองบังคับการปราบปราม สถานีโรงพัก และชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมกันไล่เช็คการใช้โทรศัพท์และข้อมูลการเงินว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ รวมถึงของอดีตสามีผู้ต้องหาด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า วันศุกร์ที่ 28 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. จะนำข้อมูลทั้งหมดมาดูว่าน่าจะออกหมายจับเพิ่มเติมได้แค่ไหน และเป็นคดีใดบ้าง ส่วนศพที่มีการชันสูตรพลิกศพ มี 3 ศพ เป็นในพื้นที่นครปฐม 2 ศพ และสามพราน 1 ศพ ส่วนจะออกหมายจับจากเหตุนี้หรือไม่จะต้องสอบปากคำแพทย์ผู้ชันสูตรศพก่อน สำหรับศพที่ไม่ได้ผ่าชันสูตรศพจะเป็นอุปสรรคนิดหน่อย แต่เรายึดเอาพฤติการณ์แวดล้อม เพราะผู้ต้องหาทำคล้ายกันหมด คือ มีการกินข้าวแล้วก็เสียชีวิต หรือดื่มน้ำแล้วก็เสียชีวิต ดังนั้น ในส่วนของตำรวจ เราคัดค้านการประกัน และเชื่อว่าศาลก็คงไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นการกระทำต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาไม่ให้ข้อมูลใดๆ มีร้องไห้นิดหน่อย แต่ยอมรับว่ารู้จักผู้เสียชีวิตทุกราย ส่วนผู้ที่เกือบเสียชีวิตรายที่ 11 นี้ เป็นลมและแฟนหนุ่มช่วยเหลือทัน เราจะมีการเรียกมาสอบปากคำเช่นกัน

สำหรับประเด็นวงแชร์นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ดูยอดมีจำนวนเงินไม่เยอะ ส่วนพฤติการณ์ชัดเจนว่าผู้ต้องหาฆ่าเพื่อประสงค์เคลียร์หนี้สิน ไม่ต้องการใช้หนี้และประสงค์เอาทรัพย์ และจากนี้จะส่งเจ้าตัวไปตรวจสุขภาพจิตด้วย แต่เท่าที่มองเขายังรู้สึกตัว ยังตัดสินใจได้ ไม่ใช่เป็นบุคคลที่ไม่รู้เรื่อง เขารู้ขณะกระทำ ส่วนประวัติการรักษาสุขภาพจิต จะมีการไปตรวจสอบแน่นอน มีการแบ่งมอบงานเรียบร้อย

“เบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ต้องหาติดการพนัน และก่อนที่จะก่อเหตุ คาดว่าผู้ต้องหาเคยมีการพูดคุยเรื่องหนี้สินกับผู้ตาย มีการทวงหนี้กัน โดยเราดูจากข้อมูลการใช้โทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม ขอเวลาให้เราทำงานอย่างละเอียด ยืนยันว่าทำงานอย่างรวดเร็ว บูรณาการร่วมกับกองปราบปราม เหลือเวลาทำงานอีก 2 วัน จากนั้นในวันศุกร์นี้จะมาพูดคุยกันอีกที” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ

เมื่อถามว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลังจากนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าถ้ามีเพิ่ม ญาติจะต้องมา บางทีญาติอาจจะยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิต เสียชีวิตเพราะอะไร แต่ตอนนี้ยิ่งออกข่าวไปเยอะ น่าจะมีเข้ามาอีก อย่าวไรก็ต้องชมเชยทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่ออกหมายจับได้รวดเร็ว.