เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด นนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ สวมแว่นตาใส่รองเท้าแตะ ในมือถือถุงพลาสติก ยืนรอรถอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางปากซอย แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 20 (ซอยต้นสน) ทราบชื่อคือ พระพรเทพ อายุ 63 ปี ที่อยู่ 254 /2 หมู่ 1 ต.สนามคลี อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ยืนพิงเสาอยู่ในสภาพมึนเมา ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้เชิญตัวไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์

ผลการตรวจพบว่าค่าแอลกอฮอล์สูงถึง 233 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวพระพรเทพ ไปที่วัดบางพูดนอกพบพระใบฎีกา จันทร์ โกวิโท พระวินยาธิการประจำจังหวัดนนทบุรี เขตปกครองคณะสงฆ์ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำการลาสิขา โดยขณะทำการลาสิขา ทางด้านพระพรเทพ มีอาการฉุนเฉียวไม่พอใจ โต้เถียงกับพระในวัด และไม่ยอมสึกต้องใช้เวลาเกลี่ยกล่อมอยู่นาน จากการตรวจสอบพบบัตรประชาชนพระและใบสุทธิวัดแห่งหนึ่งย่านจังหวัดอ่างทอง ตรวจสอบภายในย่ามพบ ยารักษาโรค ลำโพงบลูทูธ 1 ตัว หนังสือสวดมนต์ จำนวน 1 เล่ม และเอกสารต่างๆ

จากการสอบถามพระพรเทพ กล่าวว่า ตนกำลังจะรอรถเพื่อกลับบ้านที่เมืองทองธานีจู่ๆ มาจับสึก ตนไม่ได้เมา ยอมรับว่ากินยาชูกำลัง ที่มีอาการแบบนี้เนื่องจากกินยารักษาโรคผิวหนังเลยรู้สึกเบลอ ก่อนหน้านี้ตนบวชอยู่ที่วัดแถวป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มาจับตนสึกแบบนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้บวชใหม่ได้ เงินมีพ่อแม่มี โดนจับสึกแบบนี้โครตเท่เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นมาใส่บาตรที่วัดแต่เช้า สาธุ

พระใบฎีกา จันทร์ โกวิโท กล่าวว่า พระรูปนี้เป็นพระจริง บวชต้นสังกัดที่วัดอัมพวา ต.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้ทำใบสุทธิมาอย่างถูกต้อง และย้ายต้นสังกัดไปที่วัดเทวราชวราราม จ.สระบุรี ย้ายไปที่วัดจำปาเพื่อทำใบสมาร์ทการ์ด บัตรประชาชนพระ เขาเป็นพระจริง และมีความผิดฐานกินเหล้า เป็นความผิดของพระ ซึ่งทางโลกอาจจะไม่ใช่คดีอะไร แต่ทางพระทำไม่ได้ไม่เหมาะสม ยิ่งชาวบ้านเป็นคนจับได้ยิ่งต้องจับสึก ทางต้นสังกัดเขาก็ไม่ยินยอม ต้องให้ลาสิกขา หากเขาสึกไปแล้วและต้องไปทำบัตรประชาชนของฆราวาสต้องทำเรื่องย้าย อาตมาเลยต้องยึดบัตรประชาชนพระและใบสุทธิไว้ เพราะมันสามารถไปห่มผ้าเหลืองเองและใช้ได้อีก อาตมาจึงจำเป็นต้องยึดไว้ไม่ให้ไป ให้เขาสร่างแล้วมาหาอาตมา

พระใบฏีกา จันทร์โกวิโท กล่าวว่า ตอนนี้เขาอาจจะเมาคุยไม่รู้เรื่อง ยังไงก็ต้องสึก ต่อให้จะไม่ยอมก็ตาม ถ้าตำรวจบอกเป่าได้ 233 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มันแรงมาก สึกอย่างเดียว ที่ไหนก็ไม่มีใครเอา วัดไหนก็ไม่เอา แบบนี้สามารถบวชใหม่ได้ แต่อาตมาจะสลักหลังใบสุทธิไว้ แต่ยังไงก็ผิดศีล ผิดทางพระ ถ้าเขาหนีไปบวชที่อื่นแล้วไม่ตรวจสอบ ก็ไม่มีใครรู้ ถ้าทางอำเภอสามารถสลักหลังในบัตรประชาชนได้ว่า เคยบวชและมีความผิด จนโดนจับสึกก็จะดี