เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา หาเสียง โดยในช่วงเย็น นายพิธา ได้ร่วมหาเสียงที่ตลาดตุ้งโร่ อ.เมือง ร่วมกับ นายธนะชัย แสวงศิริผล ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 (เบอร์ 6) ก่อนเดินทางมาสมทบกับนายธนาธร ที่เวทีปราศรัยตลาดบางวัว อ.บางปะกง ร่วมกับ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 (เบอร์ 2)

จากนั้น นายพิธาและนายธนาธร ได้เดินทางต่อมายังลานหน้าศาลากลาง จ.สมุทรปราการ ปราศรัยพร้อมผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ (เบอร์ 3) เขต 2 น.ส.รัชนก สุขประเสริฐ (เบอร์ 2) เขต 3 นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ (เบอร์ 2) เขต 4 นายวุฒินันท์ บุญชู (เบอร์ 6) เขต 5 น.ส.นิตยา มีศรี (เบอร์ 5) เขต 6 นายวีรภัทร คันธะ (เบอร์ 8) เขต 7 นายบุญเลิศ แสงพันธุ์ (เบอร์ 2) และ เขต 8 นายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ (เบอร์ 4) โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก

นายธนาธร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในรอบ 17 ปีที่ผ่านมา มีการรัฐประหารไปแล้ว 2 ครั้ง ยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตยไปแล้ว 4 พรรค กระบวนการนิติรัฐนิติธรรมถูกบิดเบือน เพื่อทำให้ฝ่ายที่มีอำนาจทำอะไรก็ถูกต้อง ไม่ต้องรับผิดชอบ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรก็ผิดไปหมด ประชาชนหมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม มีการสลายการชุมนุมกลางเมืองจนมีคนบาดเจ็บล้มตาย มีการคุกคามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและเยาวชนคนหนุ่มสาว จนต้องติดคุกหรือต้องลี้ภัย

นายธนาธร กล่าวว่า เหตุการณ์เหล่านี้ไม่รู้ว่าจะไปจบที่ไหน จะให้ประเทศเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ภารกิจของคนจากรุ่นสู่รุ่นคือการส่งมอบสังคมที่ดีกว่านี้ให้คนรุ่นต่อไป ให้คนรุ่นต่อไปมีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าคนรุ่นของเรา การไม่แก้ปัญหาวันนี้ ก็เหมือนการซุกปัญหาไว้ใต้พรม หลับตาไว้ข้างหนึ่ง ให้คนรุ่นใหม่ต้องมาแก้ปัญหาของอดีตต่อไปเรื่อย ๆ

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ปัญหานี้จบในรุ่นเรา คนรุ่นต่อไปจะได้ไปไขว่คว้าหาโอกาส โดยเฉพาะปัญหาประชาธิปไตย ให้จบที่นี่ ที่รุ่นของเรา นี่ไม่ใช่เวลาของการกระมิดกระเมี้ยน เป็นเวลาที่เราต้องกล้าทะเยอทะยาน เผชิญหน้าปัญหาของยุคสมัย ในเมื่อโอกาสเปิดกว้างขนาดนี้แล้ว มีคนถากถางทางให้พวกเรา เสียเลือดเสียน้ำตา กว่าจะทำให้โอกาสนี้มาถึงได้ จะปล่อยโอกาสนี้ไปหรือ ถ้าไม่ทำเรื่องยากๆ วันนี้ จะทำวันไหน

“ย้ำอีกครั้ง เลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ฝ่ายอนุรักษนิยมอ่อนแรงที่สุดในรอบ 17 ปี อย่าปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป จงใช้โอกาสนี้กล้าหาญทำสิ่งที่ยาก แต่จำเป็นต้องทำเพื่ออนาคตของลูกหลานของเรา เพื่อสร้างอนาคตที่ประเทศไทยไม่มีการทำรัฐประหารอีก” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ยังกล่าวก่อนนายพิธาจะขึ้นปราศรัยว่า ถ้าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อพิธา จะสามารถแก้ปัญหาทั้งการเมืองและเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน​ได้ รมว.พาณิชย์ จะเอาสินค้าเกษตรไทยไปขายทั่วโลก รมว.ศึกษาธิการ จะแก้ไขหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันยุคทันสมัย รมว.อุตสาหกรรม จะสร้างงานให้คนไทย และรมว.กลาโหม จะปฏิรูปกองทัพ เพื่อให้อนาคตของประเทศไทย ไม่เกิดการทำรัฐประหารอีก

“และนี่คือผู้นำของเรา และนี่คือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทยวันนี้” นายธนาธร กล่าว

ด้านนายพิธา กล่าวว่า ต้องขออภัยชาวสมุทรปราการ เพราะวันนี้ปราการของคนสมุทรปราการได้แตกไปแล้วอีกจังหวัด คลื่นสีส้มกำลังมา คลื่นแห่งความหวังและความเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว คลื่นเหล่านี้จะส่งผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้ง 8 คน 8 เขต เข้าสู่สภา ไปสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

นายพิธา กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคอนาคตใหม่ มาเป็นที่ 2 ในสมุทรปราการหลายเขต แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่แค่สมุทรปราการที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล จะเป็นอันดับ 1 ยกจังหวัด แต่พรรคก้าวไกล ต้องการปักธงทั้งถนนบางนา-ตราด ตั้งแต่เขตบางนา สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อเปลี่ยนถนนบางนา-ตราด ให้เป็นถนนสายประชาธิปไตย เมื่อปากน้ำแตกแล้ว บางนา-ตราด แตกแล้ว ประเทศไทยจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

นายพิธา กล่าวว่าสำหรับนโยบายเพื่อชาวสมุทรปราการ ปัญหาอันดับหนึ่งคือเป็นจังหวัดที่มีแรงงานนอกระบบเข้าไม่ถึงประกันสังคมมากที่สุด พรรคก้าวไกลจึงต้องมีนายเซีย จำปาทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตัวแทนแรงงานเป็นปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 4 เข้าไปแก้ปัญหาแรงงานของคนสมุทรปราการ อันดับสอง คือปัญหาขยะที่พรรคก้าวไกลต้องการเอากลิ่นเหม็นของขยะออกไป และเอากลิ่นเหม็นของการเมืองเก่าๆ ออกไปด้วย โดยถ้าตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะให้มีการทำประชามติ ให้คนสมุทรปราการเลือกผู้ว่าฯ จังหวัดตัวเอง กระจายอำนาจและงบประมาณให้คนสมุทรปราการได้แก้ปัญหาการศึกษา สิ่งแวดล้อม น้ำท่วม แรงงาน ให้ภาษีที่เกิดขึ้นในสมุทรปราการเอาไว้แก้ปัญหาคนสมุทรปราการเอง

“ถ้าวิสัยทัศน์แบบนี้ เป็นสิ่งที่ท่านชอบ 14 พ.ค. เอาความกลัวไว้ข้างหลังเอาความหวังไว้ข้างหน้า จะกลัวหรือกล้าอยู่ที่ใจ กาพรรคก้าวไกลทั้ง 2 ใบ เพื่อเอาผู้สมัคร ส.ส. ก้าวไกลทั้ง 8 คนเข้าสภา เลือกพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” นายพิธา กล่าว