เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมวางยาไซยาไนด์ โดยเฉพาะวันนี้ ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้เข้าสอบปากคำในทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบสวนประเด็นการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ “ก้อย” หลังตำรวจพบหลังฐานหลายอย่างที่เชื่อมโยงทางคดีเพิ่มเติม โดย น.ส.แอม ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ยอมให้การและไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การ ทำให้การสอบสวนวันนี้ ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งสอดคล้องกับเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ทางตำรวจทราบว่า น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายคนเดิมของนางสาวแอม เข้าพบ อาจเป็นไปได้ว่า การเข้าพบของทนาย ส่งผลทำให้ผู้ต้องหาไม่ยอมให้การในครั้งนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด และยังเชื่อมั่นการทำงานของชุดสอบสวนสืบสวนคลีคลายคดี ว่าสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดได้ พร้อมระบุว่า การกระทำของ น.ส.แอม เป็นวิธีการที่แยบยล ทำให้ตำรวจหลงทาง แต่คำให้การในรายละเอียดที่ผ่านมาทั้งหมด ถึงแม้ว่าไม่รับว่าฆ่า แต่รับในข้อเท็จจริงที่นำไซยาไนด์ไปให้ น.ส.ก้อย นั้นมีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนคำให้การของ น.ส.แอม จะให้การหรือไม่ให้การ ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน แล้วเสนออัยการ หากมีส่วนไหนไม่สมบูร์ ก็ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

พลิกลิ้นสารภาพ? ‘แอม’ เปิดปากอ้างมอบ ‘ไซยาไนด์’ ให้ ‘ก้อย’ ใช้ผสมยาเสพติด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่สำนวนมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนจะดำเนินคดีใครเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ คาดว่าจะมีความคืบหน้าแน่นอน ส่วนที่มาของไซยาไนด์ ขณะนี้ใกล้พบที่มาที่แท้จริงแล้ว ในส่วนนี้หากพบเจ้าหน้าที่รัฐ หรือใครที่ปล่อยปละละเลยให้มีการซื้ขายไซยาไนด์ ก็จะดำเนินคดีด้วย

“ส่วนจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดเพื่อเอาตัวรอดหรือไม่ ก็อาจจะเพียงแค่คำแนะนำ ซึ่งก็เป็นคนเดิมๆ ที่เคยให้คำแนะนำไปก่อนหน้านี้ ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือรองอ๊อฟ อดีตสามีของ น.ส.แอม ยังปฏิเสธรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิต แต่รับว่ารู้เห็นในส่วนของทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาเท่านั้น ส่วนประเด็นที่ น.ส.แอม จะใช้ทนายคนเก่า เพราะเชื่อว่าจะสามารถต่อสู้และรอดจากคดีนี้ได้ ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ย้ำเคยเตือนแล้วไม่ฟัง พยายามพูดให้สำนึกและสารภาพในสิ่งที่ทำ เพื่อจะได้รับโทษน้อยลง แต่กลับไม่ให้ความร่วมมือก็ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” รอง ผบ.ตร. ระบุ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนทนายจะรู้จักคนใหญ่คนโตหรือไม่นั้น ไม่มีทางที่จะเข้ามาแทรกแซงคดีได้ เพราะคุมสำนวนด้วยตัวเอง แต่หาก น.ส.แอม ต้องการให้การหรือรับสารภาพเพิ่มเติม ก็พร้อมจะเข้าไปพบได้ตลอดเวลา.