เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังจากการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนประชุมสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา แล้วพบว่ามีสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เขต 1 คนหนึ่ง มีผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง และอยู่ระหว่างการส่ง รพ.มหาราช ตรวจแยกสารให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า สีม่วงเพราะเสพยาเสพติดหรือไม่ โดยกรณีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดร.กณพ เกตุชาติ จะสั่งกำชับไม่มีการช่วยเหลือกันเด็ดขาด และต้องมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ทุกราย

สืบเนื่องจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ดร.กณพ เกตุชาติ สั่งการให้ตรวจปัสสาวะทั้งผู้บริหาร ส.ท. หัวหน่วยราชการ พนักงานและลูกจ้างในสังกัดทุกคนในลักษณะ “ปิดประตูตีแมว” โดยจะเน้นวันที่มีกำหนดการหรือนัดหมายประชุม แบบไม่บอกหรือให้รู้ล่วงหน้าและไม่เว้นแม้แต่พนักงานเก็บขยะ โดยปฏิบัติมาแล้วหลายครั้ง หากพบว่าผู้ใดมีปัสสาวะสีม่วงเพราะเสพยาเสพติด ก็จะมีคำสั่งให้ออกพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในทุกตำแหน่งมาแล้วหลายคน จนกระทั่งมาสุ่มตรวจก่อนการประชุมสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา และพบ ส.ท.เขต 1 จำนวน 1 คน มีปัสสาวะสีม่วงดังกล่าว

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช แบ่งออกเป็น 4 เขต มี ส.ท. เขตละ 6 คน รวม ส.ท. ทั้งหมด 24 คน ซึ่งในการตรวจปัสสาวะจะถูกปกปิดเป็นความลับ ไม่มีการแจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบล่วงหน้า โดย ส.ท. คนดังกล่าวได้แอบนำน้ำดื่มจากขวดมาส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจ แต่ถูกจับได้ ถูกให้ไปปัสสาวะนำมาตรวจใหม่ จนพบว่ามีสีม่วงดังกล่าว ในขณะนี้ทางผู้บริหารฯ และ ส.ท. ทั้งหมดพยายามกดดัน ส.ท. คนดังกล่าว แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า สาเหตุที่พบปัสสาวะสีม่วงมาจากการเสพยาเสพติดหรือไม่ โดยยกกรณีของว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ดื่มสุราและตำรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงแสดงสปิริตลาออกจากจากว่าที่ ส.ส. ทันที นับเป็นตัวอย่างที่ดีในทางการเมืองทุกระดับ ซึ่งในกรณีนี้หาก ส.ท. คนดังกล่าว ไม่ยอมแสดงสปิริตลาออก ทาง ดร.กณพ เกตุชาติ จะเสนอเรื่องให้นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผวจ.นครศรีธรรมราช พิจารณามีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งต่อไป.