เมื่อวันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT ที่ 5 สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. รอง หน. PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. เข้าจับกุมตัว นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสระบุรี ที่ 73/2566 ลงวันที่ 27 เม.ย. 66 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์” โดยจับกุมได้ที่บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการฉ้อโกงบัตรมหกรรมคอนเสิร์ตวงแบล็กพิงก์ ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหลายรายเป็นเหล่าแฟนคลับต่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนแกะรอยจนพบเบาะแสทราบตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และมีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตกว่า 9 คดี จากการตรวจสอบมีผู้เสียหายจำนวนมาก ความเสียหายกว่า 7 แสนบาท ส่วนแผนประทุษกรรมเจ้าแม่รายนี้คือ “ขายตั๋วซ้ำๆ” ขายตั๋วหมดแล้วก็เอาตั๋วใบเดิมกลับมาวนขายให้คนอื่นอีก

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในละแวกซอยไมยราบ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ เพราะพฤติกรรมหวาดระแวงและหลบๆ ซ่อนๆ ของผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ภายหลังถูกจับกุมเจ้าตัวอ้าง “คืนเงินแล้ว” ดราม่าเพื่อเรียกน้ำตาจากชุดจับกุม

จากการสอบสวนนางสาวเอ ให้การรับสารภาพว่า ตนหาเงินได้จากคอนเสิร์ตต่างๆ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนเสิร์ตแบล็กพิงก์ที่มีคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตนเห็นช่องทางหารายได้จึงรับกดบัตรทางออนใลน์ โดยให้กลุ่มเพื่อนและน้องสาวช่วยกันกดซื้อบัตรเพื่อนำมาขายต่อให้กับสาวกแบล็กพิงก์ในประเทศไทย โดยได้จองบัตรคอนเสิร์ตในราคา 9,600 บาท ซึ่งเป็นบัตรนั่งราคาแพงที่สุดได้มาประมาณ 200 ใบ จากนั้นตนจึงนำมาขายต่อในราคาใบละ 15,000-30,000 บาท มีผู้ต้องการซื้อจำนวนมากนับหมื่นคน จนขายหมดทั้ง 200 ใบ ได้กำไรหลายแสนบาท แต่ยังมีลูกค้ามาขอซื้อต่อจากตนเรื่อยๆ

ตนจึงเกิดความโลภ และเห็นว่าตั๋วทั้งหมดเป็นตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) จึงมีการนำบัตรที่มีการขายไปแล้ววนขายซ้ำให้ผู้ที่มาขอซื้อ จนวันจัดคอนเสิร์ตเกิดปัญหาตั๋วที่นั่งเดียวมีคนไปแสดงตัวเป็นเจ้าของหลายคน ทำให้ตนผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัตรดังกล่าวโดนติดตามตัวและโดนแจ้งความดำเนินคดี แต่ตนก็ได้ทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายบางคนแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้เงินคืนเพราะตนไม่มีเงินแล้ว จึงหนีจากที่อยู่เดิมไปกบดานอยู่ที่แถวลาดพร้าว จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัว และตนยอมรับผิดจะพยายามหาเงินมาคืนให้ผู้เสียหายทุกคน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การเนื่องจากแนวทางการสืบสวนเชิงลึกทราบว่า นางสาวเอติดการพนันออนไลน์พอเล่นจนหมดตัว ทำให้เกิดความโลภ จึงคิดหาเงินแบบรวดเร็วเพื่อเอามาเล่นพนันออนไลน์อีก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหายต่อไป