เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านในหมู่บ้านสนามบินบ้าน หมู่ 11 ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี พบสุนัขจิ้งจอก สัตว์ป่าคุ้มครอง อายุประมาณ 1 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลงฝูงเข้ามาในหมู่บ้าน จนถูกสุนัขของชาวบ้านกัดจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนชาวบ้านได้ติดต่อเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ให้เข้ามารับตัวส่งไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่ออนุบาลและรักษาบาดแผลให้หายก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
โดยนายอติชาต ผดุงเขต อายุ 57 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนเอง มีบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านสนามบิน มีอาชีพทำไร่มัน ซึ่งห่างจากเขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพบเห็นฝูงหมาจิ้งจอกอยู่ 2 ครั้ง แต่พบบริเวณไร่มันเป็นฝูงๆ นอกจากนี้ยังพบเลียงผาอีกหลายครั้ง บริเวณเขาปลาร้าที่ติดกับไร่มัน แต่ครั้งนี้ หมาจิ้งจอกตัวดังกล่าวนี้น่าจะหลงฝูง ถึงได้เดินเข้ามาใกล้บ้านของตนเอง ซึ่งที่บ้านของตนเองนั้นเลี้ยงหมาไว้ จำนวน 2 ตัว ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงสุนัขนั้นเห่าและไล่กัดอะไรสักอย่าง ก่อนตนจะออกมาพบว่าเป็นสุนัขจิ้งจอก ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาหลัง ตนและคนที่บ้านจึงช่วยกันห้ามสุนัข และกันออกจากกัน และนำสุ่มมาครอบสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่อนุรักษ์จากหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
ขณะที่ นายปารเมศ เศียรภักดี เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอลานสักพื้นที่ติดกัน เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งกรณีดังกล่าว จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อนุรักษ์อีก 2 นาย เร่งเข้าไปตรวจสอบทันที พร้อมนำกรงขังสัตว์บรรทุกใส่รถกระบะมาที่บ้าน นายอติชาต ที่จับหมาจิ้งจอกไว้ จากการตรวจสอบหมาจิ้งจอกตัวดังกล่าวอายุประมาณ 1 ปี มีการบาดเจ็บที่ขา แต่สภาพยังไม่อิดโรย
สำหรับหมาจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง อาศัยอยู่ในป่าเขาปลาร้า ซึ่งส่วนใหญ่มันจะหากินอยู่ในป่าจะไม่ค่อยออกมาใกล้บ้านเรือนประชาชน หากชาวบ้านพบเห็นก็ขออย่าไปทำร้ายหรือฆ่า เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยไล่เท่านั้น สุนัขจิ้งจอก ก็จะกลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติที่อยู่อาศัยเอง ส่วนสุนัขจิ้งจอกตัวดังกล่าวนี้ จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยจะนำใส่กรงส่งต่อไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อทำการอนุบาลและรักษาจากนายสัตว์แพทย์ประจำสถานีฯ จนกว่าจะหาย เมื่อมีสภาพร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ จึงจะปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติ ต่อไป
