กรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดโปงข้อมูลเกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว ขณะที่ทางด้านกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมตรวจสอบ พร้อมแต่งตั้ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบในประเด็นส่วยสติกเกอร์ดังกล่าว อีกทั้งมีการตั้งชุดเฉพาะกิจของตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตามได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

‘จตช.’ เตรียมเรียก ‘วิโรจน์’ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ให้ข้อมูลแฉส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตส่วยรถบรรทุกกับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ว่า สำหรับการเตรียมพูดคุยกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในประเด็นดังกล่าวนั้น คาดว่านายวิโรจน์จะเดินทางมาพบในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ ที่ กองบังคับการการตำรวจทางหลวง ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ชุดสืบสวนข้อเท็จจริงไปล่วงหน้าแล้ว เพื่อรวบรวมข้อมูล เจาะหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ประมาณวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. จะมีความชัดเจนเกิดขึ้น สังคมและประชาชนจะได้เห็นคำสั่งบางอย่างเผยแพร่ออกมา อาทิ คำสั่งให้ขาดจากตำแหน่งเดิม คำสั่งเรื่องวินัย หรือความคืบหน้าทางคดีอาญา เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะต้องทำเพื่อรักษาหน่วยงานไว้ไม่ให้เป็นที่ติฉิน

เมื่อถามถึงเรื่องไทม์ไลน์การดำเนินการต่างๆ ในกรณีนี้นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) ช่วงเช้าตนจะมีการประชุมกับคณะทำงานชุดสืบสวนเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่ บก.ปปป. เพราะเราได้มีการสืบสวนนำการสอบสวน และถ้ารวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน หลังจากนี้ก็จะต้องส่งให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจจะเป็นสำนักงานจเรตำรวจ หรืออาจจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดนี้ให้กับทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อที่เจ้าหน้าที่ ปปป. จะดำเนินการเรียกผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง เพื่อส่งต่อไปยัง ป.ป.ช. ส่วนในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้น ตนจะประชุมร่วมกับอีกหนึ่งคณะทำงานที่กองบังคับการการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุอีกว่า เมื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานมาสักระยะหนึ่ง หากพบว่าตำรวจรายใดเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องทุจริต ไม่ว่าจะเจอกี่รายก็พร้อมดำเนินการทั้งหมด อีกทั้งระหว่างนี้พยานบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยถูกจับกุมจากการถูกข่มขู่เรียกจ่ายเงินแล้วไม่ยอมจ่าย หรือผู้ที่จำยอมต้องจ่ายส่วย คือ สิ่งสำคัญสำหรับเรา เพราะคำให้การของพยานเหล่านี้จะถูกรวบรวมไว้ในสำนวน เพื่อเจ้าหน้าที่จะนำไปใช้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดต่อไปได้

เมื่อถามต่อว่าขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดในชุดเฉพาะกิจดังกล่าว ที่ถูกออกหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหาไปแล้วบ้าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เร็วๆ นี้ จะมีความคืบหน้าทางการสอบสวนแน่นอน เพราะในการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวน จะค่อยๆ มีระดับของความชัดเจนเกิดขึ้น และไม่ว่าหลักฐานข้อมูลของนายวิโรจน์ หลักฐานของสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย รวมถึงหลักฐานของเจ้าหน้าที่สืบสวนของเราเอง ก็จะต้องนำมาประกอบใช้พิจารณาซึ่งกันและกัน หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าใครเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการทั้งหมดเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยืนยันว่า การตรวจสอบเรื่องทุจริตเหล่านี้ เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ใช่การทำแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่ใช่เเค่การเรียกคนที่ก่อปัญหามาคุยแล้วจบ แต่เราต้องขยายผลต่อเนื่อง เพื่อเอาผิดผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ เพราะมันเป็นความเสียหายมหาศาลที่เกิดขึ้นกับประชาชน.