เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ สน.บางซื่อ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.สุพัฒน์ หนูแก้ว สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเลขานุการของนายชัยวัฒน์ ในข้อหาใช้ให้ผู้อื่นให้การเท็จ 

โดย นายรัชฎา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าแจ้งความว่า หลังจากที่ถูกตำรวจ ปปป. ดำเนินคดีจับภายในห้องทำงาน พร้อมกับเงินสดที่อ้างว่าเรียกรับสินบนกับหน่วยงานในสังกัด พบว่าส่วนหนึ่งมี นายชัยวัฒน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนำเงินจำนวน 98,000 บาท ที่ให้ลูกน้องใส่ซองนำมาให้ภายในห้องทำงาน โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นซองอะไร หลังจากนั้นพบว่า นายชัยวัฒน์ ได้ทำแบบฟอร์มคำให้การของพยานส่งให้ในแอปพลิเคชันไลน์ โดยให้เลขาฯ เป็นผู้มาให้การกับเจ้าหน้าที่ตามที่นายชัยวัฒน์ได้ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำให้การดังกล่าว ตนได้พยานหลักฐานชิ้นนี้มา เห็นว่าเป็นความเสียหายกับตัวเอง จึงนำมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับทั้งสองคน โดยจะมีพยานบุคคลมายืนยันด้วย

นายรัชฎา ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการฟ้องดำเนินคดีแก้เกี้ยวกับนายชัยวัฒน์ ส่วนก่อนหน้านี้ที่ฟ้องดำเนินคดีกับตำรวจ ปปป.ชุดจับกุม ที่เข้ามาจับโดยมิชอบภายในห้องทำงาน แล้วศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยกฟ้องไปนั้น ตนไม่ได้หนักใจ เพราะคดีเป็นคนละส่วนกัน ในเรื่องดังกล่าวเป็นการฟ้องเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน แต่ในคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะดำเนินคดีได้ ส่วนเงินจำนวน 98,000 บาท ที่ลูกน้องของนายชัยวัฒน์ นำมาให้นั้น ไม่รู้ว่าภายในมีเงินอยู่ และไม่ใช่เงินของตัวเอง แต่เห็นว่าถูกกลั่นแกล้งให้ต้องรับผิดในคดีเรียกรับสินบน


ด้าน นายวราชันย์ กล่าวว่า หลังมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ได้มีการเรียกหัวหน้าหน่วยงาน 13 แห่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 17 คน เข้าให้ปากคำ ตนทราบว่าส่วนใหญ่ให้การว่า อธิบดีไม่เคยเรียกรับเงินและไม่เคยมีการจ่ายเงินให้กับอธิบดี แต่มาทราบภายหลังว่า ก่อนเข้าให้ปากคำ มีการส่งคำให้การให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปให้ปากคำ เพื่อให้การไปในทิศทางเดียวกัน โดยผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงินเห็นว่า ข้อความในคำให้การไม่ถูกต้อง จึงให้การไปว่า อธิบดีไม่เคยเรียกรับและไม่มีใครเคยจ่ายเงินดังกล่าว จึง มีประเด็นที่ต้องพิสูจน์ว่าเงินที่อยู่ในซองเป็นเงินที่เรียกรับสินบนหรือไม่ แต่ขณะเกิดเหตุทำไมอธิบดีถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรก เป็นเพราะอธิบดีไม่ทราบว่า ภายในซองเอกสารคืออะไร นายชัยวัฒน์เข้ามาพบเพียงครู่เดียว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแสดงตัวจับกุม ส่วนเรื่องคดีความต้องไปว่ากันในชั้นศาล ว่าสุดท้ายศาลจะพิจารณาตัดสินอย่างไร.