เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลในเรื่องของการเมืองไทย ว่าตนได้พบปะและพูดคุยกับนักลงทุนเป็นประจำ ตอนที่ตนออกจาวงการธุรกิจมาเข้าสู่วงการการเมือง เขาก็อยากพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน และเรื่องเศรษฐกิจ เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์มีการจัดสัมมนาออนไลน์ โดยมีนักลงทุนเข้าร่วมประมาณ 85-170 คน ได้มีการสอบถามถึงปัญหาบ้านเมือง ซึ่งสิ่งที่เขาห่วงใยมากที่สุดคือประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง มีสิ่งดีๆ อยู่เยอะมาก แต่ความไม่แน่นอนของรัฐบาลรักษาการ ทำให้การลงทุนหยุดชะงัก เขาอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ตนในฐานะที่ทำงานกับพรรค พท. ก็ได้แถลงถึงเจตจำนงชัดเจนว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทย เราอยากให้พรรคการเมืองที่ไปทำเอ็มโอยูมา จัดตั้งรับบาลโดยเร็ว อยากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ น่าจะได้ช่วยผ่อนคลายปัญหาไปได้เยอะ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้าจะส่งผลกระทบกับการลงทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เหนื่อย เพราะมีปัจจัยแปรมาเยอะ ตัวแปรเปลี่ยนตลอด เป็นที่น่ากังวลของนักลงทุน ทั้งนี้หากมีการตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว ก็คงไม่มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะย้ายฐานการผลิต แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ด้วย ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลใหม่น่าจะสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยเยอะ อย่างไรก็ตามการเดินสายพบกับนักธุรกิจของนายพิธา ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในความมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่พร้อมที่จะเข้ามาสานต่อเรื่องของการลงทุน และความตั้งใจของว่าที่นายกฯ ก็เป็นเจตจำนงที่ดีที่เข้าใจถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทย และความต้องการของ SME เชื่อว่า คณะทำงานคงจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบในการเตรียมตัวจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลหรือเลือกนายกฯ ได้ น่าจะสามารถดึงดูดความสนใจให้มีการกลับมาลงทุนในประเทศไทยได้อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองขณะนี้หรือไม่ ที่การเลือกตั้งผ่านมานานแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เดินหน้า นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าเป็นห่วง แต่อยากให้ใช้คำว่าเดินหน้าโดยเร็วมากกว่า วันนี้ตนมาเจอหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียนให้ทราบว่า เราทำอะไรไปแล้วบ้าง สัปดาห์หน้าตนจะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้ประกอบการรายย่อย ในจังหวัดที่เรามีตัวแทน ส.ส. อยู่ เพื่อดูว่าความต้องการของเขาคืออะไร

เมื่อถามว่า หากไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ ฉากทัศน์เรื่องของการลงทุนต่อไปจะเป็นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าอย่าเพิ่งพูดว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ ดีกว่า วันนี้อยู่กับความเป็นจริงก่อนดีกว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการาจัดตั้งรัฐบาลอยู่ มีความเป็นไปได้สูงว่าพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้จะมีตัวแปรมาบ้าง มีความล่าช้าไปบ้าง ตนมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และนักลงทุนก็อยากให้เกิดขึ้นได้เร็ว จากการที่คุยกับเพื่อนนักธุรกิจต่างชาติ ที่อยากย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย ก็มีหลายราย เพียงแต่คอยรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งเข้ามาบริหารจัดการอย่างเต็มที่

นายเศรษฐา ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนอยากจะเดินทางลงพื้นที่ จ.น่าน แต่อยู่ในระหว่างวางกำหนดการว่าจะไปเมื่อไร เพราะต้องการเข้าไปดูไร่โกโก้และไร่กาแฟของชาวบ้านในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียงแข่งกับนายพิธา แต่ต้องการไปดูปัญหาและกลับมาพูดคุยกับ ส.ส. พื้นที่ เพื่อให้ช่วยเหลือได้จริงๆ รวมทั้งเป็นการเตรียมตัวในการเลือกตั้งอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่อให้พรรค พท. ได้กลับมาเป็นที่ 1 อีกครั้ง