เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. ร.ต.อ.พิทักษ์ จันทร์ศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.บุปผาราม  รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายพลเมืองดีช่วยกันจับคนร้ายไว้ได้ เหตุเกิดที่อพาร์ตเมนต์ ย่านถนนประชาธิปก แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.รัตน์เกล้า อาณานุการ ผกก.สน.บุปผาราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปรามจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 6 ชั้น ที่ประตูหน้าห้องพักเลขที่ 616 ชั้น 6 พบคราบเลือดและข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้า กระจัดกระจายอยู่หน้าห้อง ภายในห้องพบศพ น.ส.ธนิฐดา อายุ 26 ปี เจ้าของห้อง ทำงานเป็นผู้ช่วยคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง สภาพนอนหงายอยู่ที่พื้นห้องท้ายเตียงนอน สวมชุดนอนสีชมพูเสื้อแขนสั้น กางเกงขาสามส่วน มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงตามร่างกาย รวม 13 แผล พบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่ที่พื้นห้อง และสร้อยคอสเตนเลสห้อยพระ 4 องค์ บนผ้าวางที่พื้นห้อง ในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายสุวัฒน์ ท่าจอหอ อายุ 21 ปี ชาวศรีสะเกษ เพื่อนข้างห้องช่วยกันจับตัวไว้ได้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บุปผาราม

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ธนิฐดา พักอาศัยอยู่ที่ห้องคนเดียว ก่อนเกิดเหตุเพื่อนข้างห้องหลายห้องชั้นเดียวกัน ได้ยินเสียงเหมือนการต่อสู้และผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือดังมาก เปิดประตูออกมาดูกัน พบเห็นคนร้ายจะหนีออกจากห้อง จึงช่วยกันจับตัวไว้ได้ ส่วน น.ส.ธนิฐดา นอนนิ่งเลือดท่วมตัวอยู่ที่พื้นห้อง รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน พล.ต.ต.มานพ สุคนธนะพัฒน์ ผบก.น.8 กล่าวว่า จากการสอบสวนนายสุวัฒน์ ผู้ต้องหา ได้ความว่า กำลังเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคชื่อดังย่านฝั่งธนฯ รู้จักผู้ตายผ่านทางโลกโซเชียล และเพิ่งนัดเจอกันครั้งแรก มีการนัดร่วมรักกัน โดยนายสุวัฒน์ไปหาผู้ตายช่วงเที่ยงคืนเศษ มีการดื่มเหล้าจนมึนเมา ช่วงอยู่ในห้องด้วยกัน ผู้ต้องหาควักบุหรี่ออกมาสูบ ผู้ตายบ่นว่าเหม็น บ่นไม่เลิก ผู้ต้องหาจึงบันดาลโทสะ ควักอาวุธมีดออกมาขู่ว่าให้หยุดบ่น แต่ผู้ตายกลับแย่งมีด จึงทำให้เกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยง จนถูกมีดแทงเข้าตามลำตัวผู้ตายหลายแห่ง ผู้ตายหมดแรง ผู้ต้องหาจึงตัดสินใจใช้มีดปาดคอจนเสียชีวิตดังกล่าว

ช่วงเกิดเหตุเพื่อนข้างห้องได้ยินเสียงทะเลาะกันจึงวิ่งมาดู พบผู้ต้องหาตัวเปื้อนเลือดเปิดประตูกำลังจะหลบหนี จึงได้ช่วยกันดันประตูให้ปิด แล้วรีบแจ้งตำรวจมาจับกุมตัวได้ทัน ซึ่งขณะนี้ตนให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพื้นที่อย่างละเอียด และตรวจหาสารเสพติดในตัวผู้ต้องหา หากพบจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุสอบสวนหาสาเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป