จากกรณีมีผู้โดยสารรายหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์ นายท่าฉุนผู้โดยสารปฏิเสธไม่ใช้บริการรถโดยสารที่ตัวเองแนะนำให้ขึ้น มีการด่าทอหยาบคาย ผลักอก กระชากคอเสื้อ ก่อนจะด่ากราดท้าทายให้ไปแจ้งความ พอผู้โดยสารถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน ก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอีกฝ่ายยังไม่หยุดพฤติกรรมกร่าง ด่าทอไม่จบนานกว่า 10 นาที กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมสุดกร่าง ไม่กลัวเกรงกฎหมาย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ว่าเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยตนและภรรยากำลังเดินทางไปกทม. โดยกำลังจะซื้อตั๋วของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างนั้น นายท่าคู่กรณี ได้เข้ามาชักชวนให้ไปขึ้นรถที่แนะนำโดยอ้างว่ารถจะออกเวลา 14.30 น. แต่พอตนไปเห็นรถโดยสาร จึงบอกปฏิเสธไป ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ ด่าทอว่า “ทำไมโง่จังไอ้XXX” จึงหันไปถามว่า “…พี่ว่าใคร..” อีกฝ่ายก็ตรงเข้ามาผลักอกและกระชากเสื้อ ตนจึงสะบัดและพยายามเดินหนีอีกฝ่าย แต่ปรากฏว่า นายท่าคู่กรณี ยังคงเดินตามมาโวยวายไม่เลิก

นายเอ เล่าอีกว่า จังหวะนั้นภรรยาหยิบโทรศัทพ์มือถือมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน จึงโดนอีกฝ่ายกระชากโทรศัพท์ไปจากมือ แต่ฝ่ายภรรยาตนแย่งกลับมาได้ ตนจึงบอกว่าทำแบบนี้ต้องแจ้งตำรวจแล้ว อีกฝ่ายก็บอกว่า “…กูจะรอ…” จากนั้นก็ยังโวยวายพวกตนพักใหญ่ เวลาผ่านไปนับ 10 นาที รปภ.จึงเข้ามาห้ามปราม ก่อนพาไปคุยกับผู้จัดการในห้อง ทั้งยังให้ นายท่าคู่กรณีขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ตนและภรรยาไม่รับ กระทั่งตำรวจมาถึง ฝ่ายนายท่าก็หลบหนีไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง นายเก่ง (นามสมมุติ) นายท่าที่อยู่ในคลิปวงจรปิด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามไปยัง นายเอก (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมงาน ซึ่งได้ข้อมูลมาว่า นายเก่ง มีตำแหน่งเป็นนายท่าจริง คอยทำหน้าที่เรียกลูกค้าหน้าตู้จำหน่ายตัว ดูแลการควบคุมปล่อยรถ ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องทะเลาะกับลูกค้าหลายครั้งแล้ว แม้จะได้รับการตักเตือนแต่ก็ยังเกิดเรื่องอีก เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานบอกว่า ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกที่นั่งจากบริษัทที่เขาต้องการ คุณไม่มีสิทธิ์ไปยัดเยียดให้ลูกค้านั่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง ทำภาพลักษณ์ขององค์กรเสื่อมเสียประจำ

ขณะที่ นายบี (นามสมมุติ) รปภ.เข้าไประงับเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้รับแจ้งมีเหตุ นายท่าและลูกค้าทะเลาะกัน บริเวณชานชาลาจึงได้รีบไปตรวจสอบ พอทั้งสองฝ่ายเริ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงเชิญตัวทั้งหมดไปพบผู้จัดการสถานี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนพบว่า นายเก่ง เป็นฝ่ายผิดจริง แต่กลับไม่ยอมรับว่าด่าผู้โดยสารว่า “…ทำไมโง่จังไอ้XXX…” จึงได้สั่งให้พังงาน 7 วันทันที ส่วนเรื่องที่ผู้โดยสารไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น ขอให้ว่ากันไปตามกฎหมาย.