ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการพิจารณาขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ซึ่งจะสิ้นสุด 20 ก.ค. นี้ว่า ล่าสุดคลังอาจไม่เสนอต่อมาตาการลดภาษีดีเซลออกไปแล้ว เนื่องจากห่วงจะขัดรัฐธรรมนูญปี 60 และมีผลผูกผันไปยังรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้นจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่พิจารณา อย่างไรก็ดีการปรับลดหรือไม่ลดภาษีดีเซล จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกในประเทศ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับลดลงมาจากเดิม 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75-76 ดอลลาร์แล้ว

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจดูแลประชาชนในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง แม้อยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ โดยประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุดลง วันที่ 20 ก.ค. 66 นี้ ซึ่งจะยังคงมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตร 32 บาทเหมือนเดิม

“แม้การลดภาษีน้ำมันติดข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อได้ เนื่องจากรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการนั้น แต่ประชาชนไม่ต้องกังวล ราคาน้ำมันจะไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลยังมีวิธีการดูแลในหลายรูปแบบ เพราะหากลดภาษี 5 บาทต่อไม่ได้ ก็สามารถใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปดูแล เช่น ลดเงินนำส่งของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรายละเอียดจะต้องมาดูวิธีการอีกครั้ง แต่เป็นเรื่องที่บริหารจัดการได้”

นอกจากนี้ กองทุนน้ำมันฯ ยังมี พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังมีวงเงินเหลืออยู่จำนวนมาก และหนี้สินของกองทุนน้ำมันก็ลดลงมาเหลือเพียง 5 หมื่นล้านบาทแล้ว จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1 แสนล้านบาท เชื่อว่ากองทุนสามารถบริหารจัดการได้แน่

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ กำลังพิจารณาประเด็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญอยู่ว่า ในช่วงรัฐบาลรักษาการสามารถตัดสินใจต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตร 5 บาท ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. 66 ได้หรือไม่ หรือต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการ

“ผมยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลได้หรือไม่ได้ ต้องรอฝ่ายกฎหมายไปศึกษารายละเอียดก่อน โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 60”

สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 66 คงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากมีการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท โดย 8 เดือนปีงบประมาณ 66 (ต.ค. 65-พ.ค. 66) จัดเก็บรายได้ 313,629 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 65,730 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้ลดภาษีดีเซลทั้ง 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 158,000 ล้านบาท