เมื่อเวลา 09.19 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม 150 ส.ส. สวมเสื้อยืดมีข้อความ “เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน” ทับด้วยชุดสูท เดินทางโดยทัวร์ปรับอากาศมารายงานตัว ส.ส. ต่อสภา โดยมีแฟนคลับพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่ง มาชูป้ายให้กำลังใจนายพิธาและ ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมตะโกนว่า “นายกฯ สู้ ๆ” ซึ่งนายพิธาได้ทักทายและขอบคุณแฟนคลับก่อนเดินเข้ามายังภายในอาคารรัฐสภา ที่มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสภาบางส่วนเตรียมช่อดอกไม้มามอบให้กับ ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมทั้งมีกลุ่มแม่บ้านประจำสภา รวมตัวกันถือป้ายให้กำลังใจนายพิธา ด้วยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า สิ่งสำคัญของพรรคไม่ใช่เรื่องตัวเลข ส.ส. แต่เป็นเรื่องการทำงานให้สมกับที่ได้รับเลือกมา กฎหมายก้าวหน้าสำคัญๆ สำหรับพี่น้องประชาชนหลายรูปแบบ มีหลายเรื่องที่พยายามทำในสภาชุดที่แล้วแต่ถูกปัดตกไป ก็หวังว่าจะทำให้ระบบนิติบัญบัติสามารถทำให้ฝ่ายบริหารแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง และเหตุที่เลือกวันที่ 27 มิ.ย. เป็นวันรายงานตัวนั้น มีหลายเรื่องรวมทั้งที่ตนติดโควิดด้วย พอแข็งแรงขึ้นก็เลยมา อีกทั้งวันที่ 27 มิ.ย. มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทยพอสมควร จึงคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่มี ส.ว. หลายคนออกมาระบุว่าไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เท่าที่มีโอกาสพูดคุยกับ ส.ว. มีหลายคนที่มีดุลพินิจและมีหลักที่จะใช้ในการเลือกตามบรรทัดฐานที่ท่านเคยทำไว้เมื่อปี 62 ที่พูดไว้ว่าถ้าสภาล่าง ใครที่รวมเสียงได้เกิน 251 ก็ไม่อยากจะฝืนมติของสภาล่างหรือเสียงที่มาจากประชาชน ถ้าบรรทัดฐานเป็นอย่างนั้น ภาพรวมของ ส.ว. 250 คน น่าจะเป็นไปตามหลักการที่เชื่อว่าวุฒิสภาน่าจะเชื่อมั่นมากกว่า คงไม่ใช่เรื่องว่าจะโหวตหรือไม่โหวตให้พิธา ถ้ายึดหลักการ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบุว่ามีเสียง ส.ว. ใกล้ถึงเป้า แต่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. บอกว่ามีไม่ถึง 5 คนนั้น นายพิธา กล่าวว่า ต้องยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า สิ่งที่ น.ส.ศิริกัญญา พูดไว้ เป็นเรื่องจริง เราขอทำงานเต็มที่ พยายามที่จะทลายกำแพงและสร้างความเข้าใจกัน ระหว่าง 2 สภาอยู่แล้ว ยืนยันว่าสิ่งที่ น.ส.ศิริกัญญา พูดไว้เป็นเรื่องจริง เพราะมีความคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ ว่า ส.ว. ไม่มีโอกาสพูดกับสื่อทุกคน หรือยังไม่ได้บอกความคิดของเขาออกมา เมื่อถามย้ำว่า ระบุเป็นตัวเลขได้หรือไม่ว่าเวลานี้มี ส.ว. สนับสนุนเท่าไร นายพิธา กล่าวว่า เพียงพอกับการเลือกตนเป็นนายกฯ

เมื่อถามต่อว่าเวลาโทรศัพท์ไปยัง ส.ว. พูดคุยเพื่อขอเสียงเป็นนายกฯ หรือชี้แจงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า หลายเรื่องที่เป็นข้อกังวลใจของ ส.ว. แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหลักการ ให้เป็นไปตามปี 62 เมื่อสภาล่างรวมเสียงได้มาก ไม่ควรมีใครมาขืน

เมื่อถามถึงกรณี ส.ว. ส่วนใหญ่ยังติดในเรื่องมาตรา 112 นายพิธา จะปลดล็อกเรื่องนี้อย่างไร หรือยังยืนยันว่าจะแก้มาตรา 112 ตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นสิ่งที่เราพูดก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และเวทีดีเบต เราได้พูดกันชัดเจนตกผลึกว่าการแก้ไขมาตรา 112 น่าจะเป็นทางออกให้กับสังคมไทย เพราะที่ผ่านมา การใช้มาตรา 112 มีการเอามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการรังแกคนเห็นต่าง รวมถึงเยาวชน ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับสถาบันเลย ในการที่จะรักษาสิ่งที่เรารัก อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด

“มีข้อมูลมีหลายฝ่ายที่ยังเข้าใจผิด เพราะการแก้ไข คือ การแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิก เท่าที่ได้คุยกับวุฒิสภา ทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น ว่าการรักษาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าหากเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 ทำให้ไปไม่ถึงนายกฯ วางแผนไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า หากมีเรื่องน่ากังวลใจ เพราะถือเป็นการนำเสียงของประชาชน ปะทะกับสถาบันโดยตรง ไม่เหมาะสมและอันตราย ดังนั้น อย่านำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างอีกเลย ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกันจำนวนมาก ที่ต้องบริหารจัดการ

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจเพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครองตามที่กล่าวหาและคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ทั้งนี้ยืนยันว่ามีความตั้งใจที่จะรักษาระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างหนักแน่น

เมื่อถามว่าเมื่อพิจารณาไทม์ไลน์ของศาลรัฐธรรมนูญ จะคาบเกี่ยวกับวันโหวตนายกฯ จะเป็นเหตุผลที่ ส.ว. ยกมาอ้างเพื่อไม่โหวตสนับสนุนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “เชื่อว่าไม่เป็นไปอย่างที่เป็นข่าว ว่าจะนำเรื่องมาตรา 112 เป็นข้ออ้าง ที่จะไม่ทำมติของสภาล่าง จึงไม่เป็นประเด็นอะไร”

เมื่อถามถึงข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภา ที่พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอด นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอในวันที่ 28 มิ.ย. ที่จะประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย และจะแถลงเรื่องดังกล่าว