เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol ถึงการวิเคราะห์ 4 บุคคลที่มีข่าวลือว่าจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลลงมติโหวตเลือกนายกฯ จะปรากฎว่ามี ส.ส.-ส.ว.เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และเลือกงดออกเสียงถึง 199 เสียง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทั้งสังคมไทยนั้น

โดย “กูรูไพศาล” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เศรษฐา ลุงป้อม อนุทิน และพีระพันธุ์ ใครมีภาษีดีกว่ากัน????” ในกรณีที่นายพิธา ไม่ผ่านความเห็นชอบในการโหวตครั้งที่ 2 ก็ดี หรือในกรณีมีผู้เสนอชื่อแคนดิเดตอื่นเข้าแข่งขันก็ดี กำลังเป็นที่สนใจว่าใครมีโอกาสมากกว่าเพื่อน ????

1.นายเศรษฐาจากเพื่อไทย จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่อาจไม่ได้รับความเห็นชอบเป็นนายก เพราะคะแนนไม่ถึง 376
เว้นแต่พรรคเพื่อไทยจะตกลงให้พลังประชารัฐหรือภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล นายเศรษฐา ก็จะได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี!!!!

-ลุงป้อม มีโอกาสได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียงถึง 376 มากที่สุด แต่อาจเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่อาจถูกอภิปรายขับไล่หลัง ครม. เข้าถวายสัตย์ เว้นแต่จะดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาลได้สำเร็จ!!!! การแต่งตั้งให้ ผู้กองธรรมนัส เป็นประธานวิป เมื่อ 2 วันก่อน เนื้อหาที่แท้จริงคือ เป็น”ผู้จัดการในการจัดตั้งรัฐบาล” นั้น เป็นจังหวะก้าวที่แหลมคม ทั้งที่ก่อนนี้จะเปิดเกมนี้ หลังโหวตนายพิธาไม่ผ่านแล้ว เพราะนี่คือการเปิดหน้าบอก พท.ว่า”คณะผู้เคยแบกเสลี่ยง” จะไม่ยอมให้”ท่านขุนนั่งเสลี่ยง เอาตีนเหยียบหัว” อีกต่อไป ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่เคยแสดงชัดเจนเหมือนครั้งนี้!!!!!

-นายอนุทิน ไม่มีโอกาสได้รับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและไม่มีโอกาสได้คะแนนเสียงเกิน 376 แม้บางกระแสจะอ้างว่า มีข้อมูลใหม่ก็ตาม

-นายพีระพันธุ์ ไม่มีโอกาสที่จะได้เสียงเกิน 376 เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่มีโอกาสได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร!!! เว้นแต่จะดึงพรรคพลังประชารัฐและเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาล แต่เป็นไปได้ยากมากๆๆๆ

2.ข่าวเรื่องข้อมูลใหม่ว่านายพีระพันธุ์จะเป็นนายกรัฐตรีนั้น ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ชั้นที่หนึ่ง แต่เป็น”ข้อมูลใหม่ชั้นที่สาม” ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับข้อมูลใหม่ที่คุณทักษิณและลุงปัอมได้รับ จึงนำมาประกอบการประเมินสถานการณ์ไม่ได้!!!!

3.พิเคราะห์ดูการโคจรของดาวเดือนในอากาศแล้ว ไม่มีทางที่จะมีข้อมูลใหม่เกิดขึ้น อย่าได้หลงเชื่อพวกโกหกภพลมเป็นอันขาด****

“โดยสรุปลุงป้อมมีโอกาสและภาษีดีกว่าใครตามที่ได้ประเมินสถานการณ์มาตั้งแต่ 2 เดือนก่อนแล้ว!!!!” สถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจ และการลงทุน จะเป็นแรงกดดันอย่างหนักหน่วง ที่ต้องทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพราะหากการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อเรื้อรังไปถึงปี 2567 ทั้ง 3 เจ้าสัวใหญ่จะพินาศฉิบหายสิ้น!!!! #รัฐบาล66..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Paisal Puechmongkol