เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 17 ก.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลถึง แนวโน้มในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. ว่า ถึงแม้การเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลจะผ่านหรือไม่ก็ต้องให้โอกาส เพราะข้อตกลงที่มีร่วมกันมาแล้ว แม้ครั้งผ่านมาจะมีเสียง ส.ว. หนุนเพียงแค่ 13 เสียง ยังขาดอีก 50 กว่าเสียงจะบอกว่าไม่ผ่านเลยก็ไม่ได้จึงต้องให้โอกาสก่อน

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้มีการติดต่อพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พยายามช่วยให้มีเสียงสนับสนุนมากขึ้น และเพียงพอโดยการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่มติของ 8 พรรคร่วม แต่ถือเป็นหน้าที่ของตนเองในฐานะ 8 พรรคร่วมซึ่งพรรค ปชป. และพรรค ชทพ. ได้ขอนำเข้าไปหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) คาดน่าจะได้คำตอบภายในเช้าวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) ไม่แน่ใจว่ากลุ่มที่ตนเองได้ประสานเป็นกลุ่มเดียวกับที่นายพิธาระบุว่าได้มา 10% ถึง 30% หรือไม่ แต่เท่าที่คุยทั้งสองพรรคอยู่ระหว่างตัดสินใจหากจะมาก็คาดว่าจะมาทั้งหมด ซึ่งในการไปหารือดังกล่าว 8 พรรคเบรกแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า ส่วนม.112 ที่ยังเป็นเงื่อนไขให้หลายพรรคไม่เข้าร่วม ซึ่งนายพิธา ยืนยันว่าจะไม่ถอยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เงื่อนไขม. 112 เป็นเงื่อนไขของส.ว. ซึ่งตนได้อภิปรายไปแล้วว่าเป็นกฎหมายอาญาจะแก้ไขเมื่อไรก็สามารถทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดก็ยังสามารถแก้ไขได้และม.112 ก็ได้แก้ไขมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ปี 2499 ซึ่งคนที่ไม่ศึกษาก็ไม่รู้และออกมายืนยันว่าแก้ไม่ได้แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระว่าจะแก้ไขอย่างไร

“พรรคทั้งหมดที่ติดต่อไปจะต้องชั่งน้ำหนักว่าคุยกันอย่างไรและดูเกมการเมือง เราไม่สามารถจะไปชี้นำได้โดยพรรคที่ติดต่อไปจะต้องนำเรื่องเข้ากก.บห. เพราะคงไม่กล้าตัดสินใจเพียงคนเดียว ไม่เหมือนเสรีรวมไทยที่มีอยู่ 1 เสียง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าทั้ง 2 พรรค มีเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “มาถึงขนาดนี้ก็ต้องเอาผลประโยชน์แล้ว ใครเขาจะมาช่วยเฉยๆ “

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะเอาด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า “ไม่เอาได้ไง ถ้าไม่เอาก็โง่เต็มทีแล้ว”