เมื่อวันที่ 19 ก.ค.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง  โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เกมโหดการเมือง อย่าไปคิดว่าจะได้คะแนนโหวตจาก ส.ว. จนถึง 376 หรือไม่? เอาแค่ให้พิธาได้โหวตในรอบสอง ยังไม่มีโอกาส ภาพซ้ำรอยกับธนาธรไปอีก ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส.

จากจะเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ รอบสอง กลายเป็นการอำลากลางสภา ขั้นต่อไปเข็มทิศพุ่งไปที่การยุบพรรคก้าวไกล วันนี้เป็นบรรทัดฐานว่า ชื่อนายกฯ เสนอโหวตซ้ำรอบสองไม่ได้ หากเพื่อไทยจะเสนอชื่อเศรษฐา ก็ต้องมั่นใจว่าผ่าน ส.ว. ในครั้งเดียว จึงถึงเวลาที่ก้าวไกลจะต้องถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านสมบูรณ์แบบ

เพราะหากมีชื่อก้าวไกลในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แม้เสนอชื่อนายกฯ เพื่อไทยไปก็ไม่ผ่าน ส.ว. จะมีข้ออ้างในการไม่โหวตให้ เสียของไปอีก พรรคก้าวไกลได้คะแนนมากเป็นอันดับ 1 ในทางประชาธิปไตยต้องได้จัดตั้งรัฐบาล แต่กลับไม่ได้ทั้งตำแหน่งประธานสภา นายกฯ และรัฐบาล

ผมเคยเตือนแล้วว่าต้องเอาประธานสภามาให้ได้ เมื่อตำแหน่งประธานสภาไปตกกับคนกลาง อ.วันนอร์ ผลจึงออกมาวันนี้ ต้องโหวตว่าจะเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ รอบสองได้ไหม ท้ายสุดก้าวไกล ไม่ได้อะไรเลย จากกลเกมการเมืองอย่างเหี้ยม คะแนนประชาชนมาหลังสุด เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น

ก้าวไกลพลิกสถานการณ์ไม่ทันจากทะยานพุ่งสู่ฟ้า กลับดิ่งลงเหวโดยฉับพลันทันใด ลูกบอลเข้าเท้าเพื่อไทยแต่หากเดินไม่ดีมีโอกาสพลาดเช่นกัน จึงต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เอาพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย มาร่วมรัฐบาล พลิกขั้วตามที่ผมคาดไว้