เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.ค. 66 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวสบันงา นนธะระ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีฆ่าสุนัข “เตี้ย มช.” โดยมีแฟนคลับของพี่เตี้ย เดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมกับนำสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มีรูปภาพของพี่เตี้ยมาแจก แฟนคลับบางรายได้นำถุงผ้าสกรีนเป็นรูปพี่เตี้ย และใส่เสื้อผ้าที่มีข้อความเกี่ยวกับความน่ารักของพี่เตี้ย เดินทางมารอรับฟังผลการตัดสินคดีในวันนี้ด้วย

สิ้นสุดการรอคอย! “พี่เตี้ย มช.” ไม่ตายฟรี ศาลตัดสินแล้ว สั่งจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 63 เวลาประมาณ 19.21 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพนักงานของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่า มีสุนัขพันทางเพศผู้ สีน้ำตาลขาว อายุ 8 ปี หายตัวไปเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 ได้ติดตามหามาตลอด กระทั่งเวลา 17.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ก็พบว่าเสียชีวิตอยู่ในป่าข้างทางริมถนนด้านข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในสภาพเน่าอืด เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ซึ่งผลการชันสูตรพบว่ามีการถูกทำร้ายอย่างทารุณกรรม ซึ่งสุนัขดังกล่าวมีฉายาว่า “เตี้ย มช.” ซึ่งเป็นสุนัขที่ถือเป็นแฟนคลับของเด็ก มช. และประชาชนที่พบเห็น หลังจากที่มีการสืบสวนและติดตามหาพยานหลักฐานอย่างหนัก จึงได้ทราบว่ามี ส.ต.ท.ปริญญา ปัญญาบุตร ตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าพี่เตี้ย มช.

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 ทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ได้เริ่มออกสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งได้มีการตัดสินคดีในวันนี้ โดยศาลได้ตัดสินจำคุก ส.ต.ท.ปริญญา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ด้านนางสาวสบันงา กล่าวภายหลังจากขึ้นไปรับฟังคำพิพากษาตัดสินคดีจากศาล ว่า คดีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ถือเป็นเคสตัวอย่างที่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เห็นว่าการทารุณกรรมสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย เป็นอาญาแผ่นดินที่รัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งคดีของพี่เตี้ย ศาลได้ยกฟ้องในเรื่องของการลักทรัพย์กลางคืน เนื่องจากเป็นการสืบทราบพยานหลักฐานที่ไม่ครบ และการยืนยันชัดเจนเรื่องการเป็นเจ้าของ แต่เราดีใจมากที่ศาลท่านได้ตัดสินในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และเป็นคดีที่ 8 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้ดำเนินการมา และได้ตัดสินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนเรื่องการที่ทางผู้ก่อเหตุ จะอุทธรณ์ต่อศาลหรือประกันตัวนั้น ทางมูลนิธิฯ ก็จะดำเนินการคัดค้านการอุทธรณ์ดังกล่าวตามหลักฐานที่มี

ด้านนางสาวทิวาทร ศิริรัตน์ และนางสาววราภรณ์ อินสม ทีมแอดมินเพจเตี้ย มช. และเครือข่ายดูแลหมา มช. กล่าวว่า รู้สึกว่าศาลท่านมีเมตตามาก ไม่ว่าสัตว์จะมีเจ้าของหรือไม่มี เจ้าของก็มีผู้ดูแล ก็มีการพิจารณาให้เป็นอย่างดี 3 ปีที่รอคอยก็ถือว่านาน การสืบความพยานหลักฐานนำเข้าตั้งแต่ชั้นสอบสวนสืบสวนแล้ว ในทีมสืบอาชญากรรมก็ดูอย่างละเอียด หลักฐานในคดีนี้มีมาก มีหลักฐานทั้งเหตุและผล มีนิติวิทยาศาสตร์ ศาลพิพากษาตามหลักฐานที่มี ถือเป็นพระคุณอย่างมาก และเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับ “เตี้ย มช.” บ้าง ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ที่ได้ส่งหลักฐานต่างๆ มาให้ การรอ 3 ปีนานไหม แต่การรอแล้วได้ความเป็นธรรม ถือว่าสมกับการรอคอย.